จริงๆ แล้วงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการคือวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งคุณบุญเลิศ ผู้จัดการร้าน BKK Audio เจ้าภาพงานเปิดตัวครั้งนี้ได้ให้เกียรติโทรศัพท์มาชวนผมไปร่วมงานด้วย ทว่า วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ วันเดียวกันนั้น ผมติดภารกิจสำคัญคือ ต้องไปทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายในงานอบรม Ear-Training Course ครั้งที่ 3 ที่ผมจัดขึ้นที่โชว์รูมของบริษัทผู้นำเข้าเครื่องเสียงบ้านระดับไฮเอ็นด์ Deco2000 จึงไม่สามารถไปร่วมงานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ได้

คุณ Dean Vang (ที่สองจากขวา) กำลังอธิบายให้ผมฟังเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดที่เขานำมาเปิดตัวครั้งนี้
แต่เนื่องจาก ผมได้ลองเข้าไปค้นข้อมูลของหูฟัง Custom In-Ear Monitor (CIEM) ยี่ห้อนี้ดูแล้ว ยอมรับว่าอยากสัมผัสมาก ผมเลยโทรฯ ไปแจ้งคุณบุญเลิศให้ช่วยนัดหมายทางทีมงาน EmpireEars ให้หน่อย เพื่อผมจะแอบไปพบคุยก่อนวันงาน และจะได้ถือโอกาสขอทดลองฟังหูฟังรุ่นใหม่ของยี่ห้อนี้ด้วยเลย

นี่คือคุณ Seth Warshavsky เอ็มดีของร้าน BKK Audio ให้เกียรติเตรียมหูฟัง EmpireEars ไว้ให้ผมทดลองฟังด้วยตัวเองเลย ..
วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ ตอนบ่ายแก่ๆ ผมจึงแอบไปที่ร้าน BKK Audio ซึ่งอยู่บนอาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น 14 ห้อง 128/148 เพื่อพบกับทีมงานของ EmpireEars ที่ให้เกียรติมารอพบผมที่ร้านนี้

ผมเพิ่งเคยมาที่ร้านนี้ครั้งแรก ตื่นตาตื่นใจพอสมควร ของเล่นเยอะมาก ..!!!
วันนั้นผมได้พบกับคุณ Dean Vang รองประธานของ EmpireEars และคุณ Jack Vang คนออกแบบ ซึ่งเราได้พูดคุยถึงผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่พวกเขาเอามาเปิดตัวในงานกันอยู่นาน คุณดีน แวงอธิบายให้ผมฟังว่า หูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดที่พวกเขาหอบหิ้วมาโชว์ให้นักเล่นหูฟังในบ้านเราได้มีโอกาสสัมผัสมีอยู่ 2 ซีรี่ย์ คือ EP series จำกับ X series

ขณะกำลังลองฟัง คุณ Dean Vang แกก็เล่าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของแกให้ฟังไปเรื่อยๆ
EP มาจาก Empire Professional เป็นซีรี่ย์ที่ปรับแต่งมาสำหรับมือโปรฯ จริงๆ โดยเน้นความเที่ยงตรง และแม่นยำในการถ่ายทอดเสียง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในสตูดิโอและบนสเตจ เป็นหูฟังระดับอ้างอิงของมืออาชีพว่างั้นเถอะ ซีรี่ย์นี้มีออกมาทั้งหมด 3 รุ่น ราคาขายไล่จากต่ำสุดขึ้นไป นั่นคือรุ่น “EVR” (Empire Vocal Reference) ใช้ไดเวอร์ Balanced Armature (BA) 3 ตัวต่อข้าง ราคาตั้งอยู่ที่ 32,600 บาทต่อชุด ระดับที่สองคือรุ่น “ESR” (Empire Studio Reference) ใช้ไดเวอร์ Balanced Armature (BA) จำนวน 3 ตัวต่อข้างเหมือนรุ่น EVR ส่วนสนนราคาอยู่ที่ชุดละ 40,400 บาท และรุ่นสูงสุดในซีรี่ย์นี้คือ “Phantom” ใช้ไดเวอร์ Balanced Armature (BA) มากกว่าสองรุ่นนั้นคือ 5 ตัวต่อข้าง สนนราคาตั้งอยู่ที่ 71,500 บาทต่อชุด

ลองฟังรุ่น Phantom กับ DAP ของ Sony รุ่นรองท๊อป NW-WM1A

รุ่นนี้ฟังแล้วถูกจริตมาก… EVR (Empire Vocal Reference) !!!
อีกซีรี่ย์ที่ออกมาพร้อมกันคือ X series มีทั้งหมด 5 รุ่น ดีไซน์หลักๆ ออกไปทางไฮบริดฯ คือใช้ไดเวอร์ Balanced Armature ทำงานผสมกับไดเวอร์ Dynamic ซึ่งรุ่นเล็กสุดนั้นมีชื่อว่า “Bravado” ราคาตั้งถือว่าอยู่ในระดับมหาชนคือชุดละ 28,700 บาท ใช้ไดเวอร์ BA กับไดเวอร์ DD (Dynamic Driver) อย่างละตัวต่อข้าง ส่วนรุ่นที่สูงขึ้นมาอีกขั้นมีชื่อว่า “Vantage” ใช้ไดเวอร์ BA จำนวน 1 ตัวทำงานผสานกับไดเวอร์ไดนามิก 2 ตัว รวมเป็นสามไดเวอร์ต่อข้าง เพื่อให้ได้กลางและทุ้มที่หนาแน่นมากขึ้น ราคาตั้งของรุ่นนี้ขึ้นไปที่ 55,900 บาท ลำดับที่สามชื่อรุ่นว่า “Nemesis” ใช้ไดเวอร์ BA มากถึง 3 ตัวต่อข้างเพื่อถ่ายทอดรายละเอียดในย่านกลางแหลมที่สุดติ่ง พร้อมไดเวอร์ไดนามิกอีก 2 ตัว รวมเป็น 5 ไดเวอร์ต่อข้าง ราคาตั้งของรุ่นนี้อยู่ที่ 63,700 บาทต่อชุด และสุดท้ายคือรุ่นท๊อปของซีรี่ย์ X ชื่อรุ่นว่า “Legend X” เป็นรุ่นที่มีราคาสูงที่สุดในจำนวนหูฟังรุ่นใหม่ทั้ง 7 รุ่นที่ออกมาครั้งนี้คือราคาตั้งอยู่ที่ 90,990 บาทต่อชุด ภายในตัวหูฟังก็อัดแน่นสมราคา เพราะใช้ไดเวอร์อะมาเจอร์มากถึงข้างละ 5 ตัว + ไดเวอร์ไดนามิกอีกข้างละ 2 ตัวช่วยกันทำงาน

โอยยย… สวยหยด.! ตัวนี้น่าจะเป็นของสมาชิกวง Labanoon นะ
คุณดีนเล่าให้ฟังว่า เดิมทีนั้น EmpireEars ทำหูฟังให้กับวงการโปรฯ เป็นหลัก ช่วงหลังๆ ยุคที่ตลาดหูฟังสำหรับคอนซูเมอร์มีความต้องการหูฟังอินเอียร์ที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น ทำให้พวกเขาเริ่มหันมาออกแบบรุ่นที่ตอบสนองกับรสนิยมในการฟังเพลงของคนทั่วไปมากขึ้น แต่ถึงแม้ว่า ซีรี่ย์ EP และ X จะออกมาโดยมีเป้าหมายไปที่นักฟังเพลงมากกว่ารุ่นเก่าๆ ที่ EmpireEars ทำมาก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่ได้ลดความพิถีพิถันในการออกแบบเลย มิหนำซ้ำ กลับอัดเทคโนโลยีพิเศษเข้าไปไม่ยั้ง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่มีผลต่อคุณภาพเสียงตรงๆ อาทิ synX crossover network ที่ช่วยจัดการกับความถี่ที่ป้อนให้กับไดเวอร์แต่ตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืออย่างเทคโนโลยีที่ชื่อว่า A.R.C. (Anti-Resonance Compound) ซึ่งออกแบบมาเพื่อขจัดปัญหาเรโซแนนซ์ที่ติดตัวมาตามธรรมชาติของไดเวอร์ Balanced Armature ให้หมดไป ทำให้เสียงแหลมไม่มีความจัดจ้าน
น่าเสียดายว่า วันนั้นผมมีเวลาไม่มากนักจึงได้ลองฟังแค่ไม่กี่รุ่น แค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ยอมรับว่า มีอยู่สอง–สามรุ่นที่มีน้ำเสียงถูกจริตของผมมาก ตั้งใจไว้ว่า หลังจบงานเปิดตัวไปแล้ว จะเข้าไปขอยืมมาทดสอบสักรุ่น–สองรุ่น ได้มาฟังกับตัวเมื่อไหร่จะนำผลการทดสอบมารายงานกันอีกที /
**********************
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ร้าน BKK Audio โทร. 0-2129-3391-2 และ 086-688-8575
หรือเข้าไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ BKK Audio.com



