รีวิวเครื่องเสียง Furutech รุ่น DSS-4.1 สายลำโพงระดับไฮเอ็นด์จากประเทศญี่ปุ่น

Furutech เป็นแบรนด์ผู้ผลิตสายเชื่อมต่อสัญญาณเสียงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น พวกเขามีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับสายเชื่อมต่อสัญญาณเสียง ไม่ว่าจะเป็นสายสัญญาณอะนาลอกและดิจิตัล, สายลำโพง และสายไฟเอซี รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้องกับสายเชื่อมต่อสัญญาณอีกหลายชนิด อาทิเช่น ขั้วต่อสายสัญญาณกับสายลำโพงประเภทต่างๆ รวมถึงหัวปลั๊กไฟสำหรับสายไฟเอซีตัวผู้และตัวเมีย ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ Furutech ออกแบบและผลิตออกมาจะได้รับความนิยมมาก ทั้งจากนักเล่นเครื่องเสียงที่ซื้อไปทำสายเอง รวมถึงแบรนด์ผู้ผลิตสายสัญญาณ, สายลำโพง และสายไฟเอซีหลายเจ้าที่เลือกใช้ขั้วต่อและหัวปลั๊กของ Furutech ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของพวกเขา นี่คือเครื่องหมายยืนยันถึงคุณภาพที่มีมาตรฐานสูง เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายในวงการ ซึ่งเป็นสถานะที่ Furutech ดำรงอยู่ตรงจุดนี้มานานมากแล้ว

สายลำโพงรุ่น DSS-4.1

นักเล่นฯ ในเมืองไทยคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์รุ่นเล็กๆ ของ Furutech มากกว่ารุ่นที่มีราคาสูงๆ จนบางคนคิดว่าสายสัญญาณและสายลำโพงของแบรนด์นี้ไม่มีรุ่นแพงๆ จริงๆ แล้วมี แต่อาจจะไม่ค่อยรู้จักเพราะผู้นำเข้าขายเงียบๆ ไม่ได้เน้นโปรโมทมาก ผมเพิ่งได้รับสายลำโพงรุ่น DSS-4.1 ซึ่งเป็นสายลำโพงระดับไฮเอ็นด์ฯ ของ Furutech มาทดสอบ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสได้ฟังเสียงของสายลำโพงระดับไฮเอ็นด์ฯ ของแบรนด์นี้ และเป็นครั้งแรกที่ผู้นำเข้าเริ่มโปรโมทสายลำโพงระดับนี้ออกมาทั้งๆ ที่ Furutech ทำสายระดับนี้ออกมานานแล้ว

จริงๆ แล้ว ทาง Furutech มีสายลำโพงแบบตัดจากขด (bulk cables) อยู่มากถึงสิบรุ่น ซึ่ง DSS-4.1 ตัวนี้เป็นรุ่นท๊อปที่เพิ่งออกมาใหม่ล่าสุด เมื่อเทียบทางด้านโครงสร้างกับรุ่นอื่นๆ จะเห็นได้ชัดว่า สายลำโพงรุ่น DSS-4.1 ตัวนี้ติดตั้งระบบชีลด์มาแน่นหนากว่ารุ่นอื่นๆ มาก นับจากเส้นตัวนำที่อยู่ด้านในสุดออกมาถึงเปลือกฉนวนด้านนอกได้ 11 ชั้น เลยทีเดียว.!

1. เส้นตัวนำ วัสดุ Alpha-OCC ทบกัน 3 ชั้น แยกสองเส้น
2. ฉนวนชั้นแรก วัสดุ Fluoropolymer ระดับออดิโอ เกรด
3. ฉนวนชั้นที่สอง วัสดุ Polyethylene ระดับออดิโอ เกรด
4. ฟิลเตอร์ วัสดุ Polyester fibres
5. ตัวกั้นแบ่งชั้นแรก วัสดุ ผ้า
6. ปลอกด้านใน วัสดุ PVC ผสมผงเซรามิกระดับนาโน+ผงคาร์บอน
7. ชีลด์ชั้นแรก วัสดุ แผ่นฟอยด์ Alpha-Copper
8. ชีลด์ชั้นที่สอง วัสดุ เส้นตัวนำ Alpha-copper ถักเป็นตาข่าย
9. ตัวกั้นแบ่งชั้นที่สอง วัสดุ ผ้า
10. ปลอกด้านนอก วัสดุ PVC ระดับออดิโอ เกรด
11. เปลือกด้านนอกสุด วัสดุ ตาข่ายไนล่อนออดิโอ เกรด

โครงสร้างของตัวนำด้านในสุดของสายลำโพงรุ่นนี้

จริงๆ แล้ว หน้าตัดของสายลำโพงตัวนี้ก็ไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่นึกไม่ถึงเลยว่า ภายใต้เปลือกนอกตาข่ายไนล่อนสีดำสลับขาวที่หุ้มห่อสายลำโพงตัวนี้เอาไว้จะมีเลเยอร์ของฉนวน, ชีลด์ และตัวนำที่มากถึง 11 ชั้น และที่น่าทึ่งมากไปกว่านั้นก็คือเส้นตัวนำที่ใช้ ซึ่งไม่ใช่เส้นแกนเดี่ยวอย่างที่คิด แต่เป็นเส้นฝอย Alpha OCC และ Alpha DUCC จำนวนมากที่มีขนาดต่างกันถึง 3 ขนาด ตีเกลียววนรอบเส้นฉนวน PE ที่อยู่ตรงแกนกลางในลักษณะตีเกลียวหมุนวนสลับกันไปในแต่ละชั้น โดยที่ชั้นในสุดที่เป็น Alpha OCC จำนวน 89 เส้น ตีวนทางขวา, ชั้นที่สองเป็น Alpha OCC จำนวน 39 เส้น ตีวนทางด้านซ้าย ส่วนชั้นที่สามเป็น Alpha DUCC ตีวนทางขวา

ขั้วต่อ

รุ่น FT-211 (R)

รุ่น FT-212 (R)

สายลำโพง DSS-4.1 ที่ผมได้รับมาทดสอบจากบริษัท Clef Audio ติดขั้วต่อสายที่ปลายทั้งสองข้างมาไม่เหมือนกัน ฝั่งที่ให้ขันยึดกับขั้วต่อสายลำโพงทางฝั่งแอมป์เขาติดขั้วต่อรุ่น FT-211 (R) ซึ่งเป็นขั้วต่อทรงหางปลา ชุบโรเดี้ยม ส่วนฝั่งที่ให้ขันยึดกับขั้วต่อสายลำโพงฝั่งลำโพงเป็นขั้วต่อแบบบานาน่า รุ่น FT-212 (R) ชุบโรเดี้ยมเช่นเดียวกัน

ส่วนตัวแล้วผมชอบขั้วต่อแบบบานาน่ามากกว่าแบบหางปลา เพราะมันใช้ง่ายและไม่หลวมคลอนเมื่อใช้ไปนานๆ โดยเฉพาะฝั่งที่ใช้ยึดเข้ากับขั้วต่อของลำโพง เพราะถ้าเป็นแบบหางปลาแม้ว่าตอนเชื่อมต่อครั้งแรกเราจะขันยึดตัวล็อคของขั้วต่อจนแน่นแล้วก็ตาม แต่เมื่อเราเปิดเพลงฟัง ตัวตู้จะสั่นไปตามจังหวะของเพลง เมื่อฟังไปนานๆ ทำให้ขั้วต่อหางปลาค่อยๆ เลื่อนหลวมและหลุดออกจากตัวล็อค ซึ่งลักษณะของขั้วต่อที่หลวมคลอนจะส่งผลกับคุณภาพเสียง ทำให้เสียงแย่ลง ในขณะที่ขั้วต่อแบบบานาน่าจะไม่มีอาการหลวมคลอน และยิ่งมีกลไกพิเศษเหมือนขั้วต่อบานาน่าของ Furutech ตัวนี้ ที่ทำให้ก้านตัวนำของขั้วต่อพองตัวเข้าไปอัดอยู่ในช่องของขั้วต่อที่ลำโพงจนแน่น ก็ยิ่งทำให้หมดโอกาสที่ขั้วต่อจะหลุดหลวมไปเลย.. ผมชอบขั้วต่อของ Furutech ตัวนี้มาก.!

ผู้ผลิตสายเชื่อมต่อที่มีความเชี่ยวชาญ ทำมานานอย่าง Furutech ย่อมรู้ดีว่า หน้าสัมผัสที่มีพื้นที่เยอะจะส่งผ่านกระแสสัญญาณได้ดีกว่าการเชื่อมต่อที่มีพื้นที่สัมผัสระหว่างตัวนำน้อย นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาเลือกใช้ขั้วต่อแบบหางปลาสำหรับการเชื่อมต่อฝั่งแอมป์ ซึ่งจากการใช้งานจริงกับอินติเกรตแอมป์ของ Accuphase รุ่น E-280 ที่ผมได้รับมาทดสอบนี้ พบว่า มันให้การจับยึดที่แน่นหนามากเป็นพิเศษ ผมแทบจะไม่มีความกังวลเลยว่าขั้วต่อจะหลวมหลุดตลอดการใช้งาน

DIY Speaker Cable
สายลำโพงทำเอง.!

Furutech มีสายลำโพงแบบต่อสำเร็จ (Finished Cable) อยู่ 5 รุ่น ไม่รวมจั๊มเปอร์อีกหนึ่งรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นมีราคาค่อนข้างสูง สำหรับสายลำโพงรุ่นที่มีราคาย่อมเยาลงมา ทาง Furutech จึงใช้วิธีทำออกมาเป็นม้วนแล้วให้ทางตัวแทนนำไปขายแบบตัดแบ่งใส่ขั้วต่อเอาเอง ซึ่งวิธีนี้เป็นผลดีกับพวกเขา เพราะมันทำให้พวกเขาสามารถแยกสายลำโพงและอุปกรณ์ที่ใช้ต่อเชื่อม อย่างพวกขั้วต่อต่างๆ ออกมาขายเป็นอะไหล่ให้กับนักเล่นฯ กลุ่ม DIY ที่ชอบทำสายสัญญาณ, สายลำโพง และสายไฟเอซีด้วยตัวเองได้หาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Furutech ไปใช้ทำสาย DIY นั่นเอง

เดิมทีนั้น สายลำโพงที่ออกแบบให้เป็นแบบม้วนตัดแบ่งจะมีคุณภาพด้อยกว่าสายรุ่นที่เขาทำสำเร็จอยู่พอสมควร เหตุผลก็เพราะตั้งเป้าหมายมาสำหรับกลุ่ม DIY ที่มีงบประมาณไม่สูง เพิ่งจะมีรุ่น DSS-4.1 นี่แหละที่เป็นสายม้วนตัดแบ่งที่มีคุณภาพสูง และมีราคาค่อนข้างสูง เหตุที่ทาง Furutech ทำสายลำโพงแบบม้วนตัดแบ่งรุ่นนี้ออกมาคงเป็นเพราะมองว่าปัจจุบัน กลุ่ม DIY ก็พัฒนาตัวเองขึ้นมามาก เริ่มมีความนิยม สารตั้งต้นที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น ยอมสู้ราคามากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะอยากทำเอง หรือเพราะไม่อยากเสียเงินให้กับตัวแทนให้เขาทำให้ การทำสายลำโพงชุดนี้ขึ้นมาใช้เองเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย และดูเหมือนว่าทาง Furutech ก็อยากจะให้เป็นเช่นนั้น พวกเขาลงทุนทำคลิปวิดีโอสอนการทำสายลำโพงชุดนี้แบบเป็นขั้นเป็นตอนเอาไว้ให้ดูด้วย ขอแค่ซื้ออุปกรณ์มาให้พร้อม มีเครื่องมือที่ใช้ในการตัดและบีบแค้มป์ให้พร้อม เปิดดูคลิปสักรอบสองรอบ แค่นี้คุณก็สามารถทำสายลำโพงไฮเอ็นด์ฯ หน้าตาหล่อๆ แบบนี้ขึ้นมาใช้เองได้แล้ว (*ข้างบนคือคลิปสอนทำสายลำโพงตัวนี้)

ทดสอบฟังเพลงของสายลำโพง Furutech รุ่น DSS-4.1

สายลำโพง DSS-4.1 เส้นตัวอย่างที่ทางตัวแทนคือบริษัท Clef Audio ส่งมาให้ผมทดลองฟังครั้งนี้มีความยาวข้างละ 3 เมตร ฝั่งที่ให้เสียบจากแอมป์ติดขั้วต่อก้ามปูรุ่น FT-211 (R) ส่วนฝั่งที่ให้ต่อเข้าลำโพงติดตั้งขั้วต่อบานาน่ารุ่น FT-212 (R) แม้ว่าตัวสายจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่น้ำหนักเยอะ โชคดีที่ขั้วต่อบานาน่ารุ่น FT-212 (R) ที่ติดมาให้มีระบบล็อคที่แข็งแรง ทำให้ตัดความกังวลว่าสายจะรูดหลุดออกมาจากขั้วต่อด้านหลังลำโพงเนื่องจากน้ำหนักของสายดึงลงมา ระบบล็อคของขั้วต่อแน่นหนามาก เอาอยู่สบายเลย..

ตอนทดลองฟังเสียง ผมสลับใช้สายลำโพง DSS-4.1 ของ Furutech ตัวนี้เชื่อมต่อระหว่างแอมป์กับลำโพงอยู่ 3-4 ชุด หลังจากเปิดทิ้งเปิดขว้างอยู่เกือบสิบวันเพื่อให้มั่นใจว่าสายผ่านการเบิร์นฯ อย่างแน่นอน (ตอนส่งมาทาง Clef Audio ก็แจ้งว่าสายลำโพงตัวนี้มีการใช้งานมาแล้วสักพักหนึ่ง) ผมก็เริ่มต้นทดลองฟังเพื่อเก็บรายละเอียดอย่างจริงๆ จังๆ

ลักษณะและคุณภาพเสียงของ DSS-4.1

หลังจากได้ทดลองฟังเสียงของสายลำโพง Furutech ตัวนี้แล้ว ผมบอกเลยว่าไม่แปลกใจที่มีนักเล่นฯ จำนวนมากชื่นชอบสายเชื่อมต่อของยี่ห้อนี้ เหตุผลก็เพราะว่าเสียงของยี่ห้อนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ตรงใจของพวกเขาเหล่านั้น

ผมนั่งฟังสายลำโพงตัวนี้ด้วยเพลงหลากหลายรูปแบบ ทั้งร้องและบรรเลง ทั้งร็อค, แจ๊ส, บลูส์, และคลาสสิก ผมพบว่า เสียงของสายลำโพงตัวนี้มันทำให้ผมนึกถึงนิสัยของคนญี่ปุ่นขึ้นมาตะหงิดๆ ใครที่เคยปฏิสัมพันธ์กับคนญี่ปุ่นแบบใกล้ชิดกันนานๆ จะรู้ว่าคนญี่ปุ่นมีนิสัยเอาจริงเอาจังกับงานที่รับผิดชอบมากเป็นพิเศษ พวกเขาจะเถรตรงและตั้งอกตั้งใจอย่างไม่เหยาะแหยะ ภายนอกอาจจะดูเคร่งเครียด เจ้าระเบียบ และเอาจริงเอาจัง แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความสุภาพ ถ่อมตน ไม่มีกระโชกโฮกฮาก ซึ่งลักษณะเสียงของสายลำโพง DSS-4.1 ตัวนี้ก็มาในแนวนั้นเลย คือมันให้ความสดของเสียงที่โดดเด่นมาก น้ำหนักเสียงที่มากับการย้ำเน้นของแต่ละชิ้นดนตรีสะท้อนให้รู้สึกเหมือนกำลังฟังเสียงที่เกิดขึ้นจริง เพราะมันไม่ใช่แค่เสียงที่ลอยมาให้ ได้ยินแต่มันแฝงเอา พลังงานมาพร้อมกับอิมแพ็คของเสียงนั้นๆ ด้วย

อัลบั้ม : Knockout 2000 (WAV-16/44.1)
ศิลปิน : Charly Antolini
สังกัด : in-acoustik

ผมจับสังเกตบุคลิกเสียงบางอย่างของสายลำโพงตัวนี้ได้ตอนใช้อัลบั้มนี้เปิดเบิร์นฯ สายลำโพงตัวนี้ ซึ่งใครที่รู้จักอัลบั้มนี้จะทราบดีว่า เสียงหวดกลองชุดของชาร์ลี แอนโตลินี่คนนี้ดุดันขนาดไหน ทรานเชี้ยนต์ของหัวไม้กลองทั้งเร็ว หนัก และกระชับ ซึ่งผมพบว่า เมื่อฟังอัลบั้มนี้ผ่านสายลำโพงของ Furutech ตัวนี้ มันทำให้เสียงหวดกลองของชาร์ลีมีลักษณะที่แปลกไปจากที่ผมเคยฟังกับสายลำโพง Kimber Kable รุ่น 12TC อยู่สองสามจุดที่ค่อนข้างชัด ความแตกต่างจุดแรกที่ผมพบก็คือลักษณะความคมและน้ำหนักของหัวเสียง (impact) ตอนหัวไม้กลองกระทบกับหนังกลอง ซึ่งเสียงที่สายลำโพง DSS-4.1 ตัวนี้ให้ออกมา มันทำให้เกิด ภาพขึ้นมาในสมอง เป็นภาพสโลโมชั่นขณะที่หัวไม้กลองตกกระทบกับหนังกลอง ซึ่งเสียงแรกที่ดังขึ้นมาเป็นเสียงที่หัวไม้กลองสัมผัสหนังกลองที่มีความตีงตัว เสียงนี้จะออกไปทางแหลมหน่อย แต่หลังจากนั้นแค่แว๊บเดียว ผมได้ยินเสียงหนึ่งตามหลังออกมา เป็นเสียงที่มีลักษณะทุ้มลงมามากกว่าเสียงอิมแพ็คแรก ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นในสมองของผมมันคือภาพของหนังกลองที่ถูกกระแทกอย่างแรงจนเกิดการกระพรือของหนังกลองตามมาในเสี้ยววินาทีหลังจากไม้กลองถูกยกขึ้นมาจากหนังกลอง ซึ่งไอ้เสียงหนังกลองที่กระพรือตามหลังเสียงอิมแพ็คแรกที่เกิดจากการกระทบระหว่างหัวไม้กลองกับหนังกลองนี้ผมแทบจะไม่รู้สึกว่ามีอยู่ตอนฟังผ่านสายลำโพง 12TC ของคิมเบอร์

รายละเอียดของเสียงหนังกลองที่กระพรือตามแรงตีของหัวไม้กลองนี้ มีผลทำให้เสียงกลองในอัลบั้มนี้ฟังดูมี texture มากกว่าที่ผมฟังมา ซึ่งปกติจะได้ยินแต่เสียงหัวไม้กระทบหนังกลอง แต่ไม่ยักกะได้ยินเสียงกระพรือของหนังกลองที่ตามมา.!! แม้ว่าจริงๆ แล้วเสียงหนังกลองที่สั่นกระพรือตามแรงตีนั้นจะไม่ได้มีความดังมาก เทียบกับเสียงหัวไม้กลองกระทบหนังกลองแล้ว เสียงหนังกลองกระพรือเบากว่าหลายเท่า แต่เข้าใจว่า เป็นเพราะสายลำโพง DSS-4.1 มันถ่ายทอดคุณสมบัติทางด้าน timing ของการเกิดขึ้นของแต่ละเสียงออกมาได้แม่นยำตรงกับสิ่งที่ถูกบันทึกมาในเพลงนั้นจริงๆ ทำให้ผมได้ยินเสียงกระพรือของหนังกลองที่เกิดขึ้นตามเสียงหัวไม้กลองระทบหนังกลองที่เกิดขึ้นก่อนแค่เสี้ยววินาที สายลำโพงตัวอื่นไม่ได้ยินเสียงกระพรือที่ชัดเท่า เป็นไปได้ว่า สายลำโพงตัวอื่นไม่สามารถแยกแยะเสียงที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันมากๆ (ระดับเสี้ยววินาที) ออกมาได้ มีผลให้เสียงหัวไม้กระทบหนังกลองกับเสียงหนังกลองกระพรือมันเกิดการ modulate เข้าด้วยกันจนฟังเหมือนเสียงที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน เพราะหลังจากได้ยินอะไรแบบนั้นจากสายลำโพง DSS-4.1 แล้ว ผมก็ลองกลับไปฟังผ่านสายลำโพงคอมเบอร์ 12TC อีกครั้งโดยตั้งในฟังเพื่อหาเสียงหนังกลองกระพรือ ปรากฏว่าคล้ายกับว่าจะได้ยินแต่มันออกมาเบามากและไม่แยกตัวเด็ดขาดออกมาจากเสียงหัวไม้กระทบหนังกลองตอนแรก เลยทำให้ที่ผ่านมาผมไม่ได้สังเกตว่ามีเสียงนี้อยู่ด้วย

อัลบั้ม : Dave’s True Story (WAV-16/44.1)
ศิลปิน : Dave’s True Story
สังกัด : Premium Records

อัลบั้มนี้บันทึก gain เสียงมาค่อนข้างสูง ฟังกับสายลำโพงบางตัวที่เก็บตัวไม่ดีแล้ว เสียงร้องกับเสียงโน๊ตดนตรีในย่านสูงจะมีลักษณะจ้าได้ง่าย ถ้าเป็นสายลำโพงถูกๆ คุณภาพไม่ดี อาจจะถึงขั้นจัดจ้านไปเลย ซึ่งผมมักจะใช้อัลบั้มนี้ทดสอบคุณสมบัติในการถ่ายทอด เนื้อเสียงของอุปกรณ์เครื่องเสียงอยู่บ่อยๆ คราวนี้ลองนำมาทดสอบสายลำโพง DSS-4.1 ตัวนี้ ก็ได้ผลลัพธ์บางแง่ออกมาซึ่งช่วยทำให้รู้ถึงบุคลิกนิสัยของสายลำโพงตัวนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น

เพลงในอัลบั้มนี้ที่ผมชอบใช้ทดสอบคือเพลง ‘Feverแทรคที่ 4 ซึ่งหลังนาทีแรกไป (ตั้งแต่เวลา 1:40 นาที ถึงเวลา 2:10 นาที) ลีลาของเพลงจะโหมขึ้นมาด้วยเสียงเครื่องเป่าทองเหลืองกับเสียงฉาบของกลองที่เพิ่มความดังขึ้นมามากกว่าตอนขึ้นต้นอย่างชัดเจน ซึ่งจังหวะโหมที่ว่านี้จะใช้ตรวจวัดความสามารถในการถ่ายทอดเสียงแหลมของอุปกรณ์เครื่องเสียงที่กำลังทดสอบได้ชัดเจนมาก ถ้าทดสอบแอมป์ก็ดูว่าแอมป์จ่ายกระแสได้เพียงพอกับความต้องการของลำโพงในช่วงเวลานั้นรึเปล่า.? ถ้าตรวจสอบลำโพงก็ดูว่าคุณภาพของทวีตเตอร์ลำโพงคู่นั้นอยู่ในระดับไหน ให้เสียงแหลมออกมาเป็นอย่างไร.? ส่วนกรณีทดสอบสายลำโพงก็คือดูว่า ตัวนำในสายลำโพงนั้นมีพฤติกรรม อั้นกระแสหรือเปล่า.? คือถ้าตัวนำไม่ดี ไม่ใหญ่พอ หรือออกแบบฉนวนไม่ดี เวลาเจอกับสัญญาณเสียงที่พีคแรงๆ เหมือนเพลงนี้มันจะเกิดอาการอั้นขึ้น ส่งผลทำให้เสียงออกมาจัดจ้าน เซ็งแซ่ ทุกอย่างจะแย่ลงหมด ไม่ว่าจะเป็นการแยกแยะรายละเอียดและความสะอาดของช่องไฟ ปลายเสียงจะมีอาการแตกพร่า แยงหู ซึ่งสายลำโพง DSS-4.1 สอบผ่านด่านโหดนี้ไปได้อย่างน่าชื่นชม มันสามารถปลดปล่อยพลังเสียงช่วงโหมของเพลงนี้ออกมาได้เต็มเหนี่ยวโดยไม่ลดทอนพลังลงไป ซึ่งสายลำโพงบางตัวจะทำให้ช่วงพีคของเสียงมีลักษณะที่นุ่มลง หลอกหูว่าไม่จัดแต่พลังของเสียงออกมาไม่เต็ม ขาดพลังอัดฉีด ไม่ได้อารมณ์ดนตรีที่สดสมจริง สายลำโพง DSS-4.1 ตัวนี้สามารถสวิงเสียงเครื่องเป่าและเสียงฟาดฉาบของมือกลองออกมาได้อย่างต็มที่ ฟังแล้วรู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ชิดติดขอบเวที เสียงเครื่องเป่าพุ่งปรี๊ดหวีดหวิวขึ้นไปได้สุดกำลัง มีอาการเต้นระริกๆ ที่ปลายเสียงซึ่งเป็นธรรมชาติของเสียงเครื่องเป่าทองเหลืองออกมาด้วย และที่น่าทึ่งคือ ภายใต้พลังเสียงที่อัดฉีดออกมาอย่างหนักหน่วงนั้น ผมกลับไม่รู้สึกระคายหูเลย..!! สิ่งเดียวที่ติดมาคือลักษณะสว่างโพลนนิดๆ ตรงปลายเสียงฉาบกับเสียงเครื่องเป่าตอนพีคสุดๆ ซึ่งผมเดาว่ามีอิทธิพลบุคลิกของขั้วต่อสายลำโพงที่เคลือบด้วยโรเดี้ยมเข้ามาเสริม เพราะธรรมชาติของโรเดี้ยม (จากประสบการณ์ที่เคยสัมผัสมา) มันจะให้เสียงแหลมที่เปิดเผย โชว์ตัวเด่น แต่ถ้าในเพลงมีอาการ overshoot ติดมากับปลายเสียง โรเดี้ยมจะไม่เก็บหรือทุเลาอาการสว่างโพลนนั้นเอาไว้ มันจะปล่อยออกมาหมด ใครชอบเสียงสดๆ จริงๆ จะถุกใจ ส่วนใครที่ไม่ชอบอาการสว่างโพลน (bright) ที่ว่านี้ แนะนำให้ลองเปลี่ยนไปใช้ขั้วต่อที่ชุบด้วยทองแทน อาการสว่างโพลนจะลดลง แต่ความสดและเปิดเผยเต็มที่ของเสียงแหลมก็จะลดลงด้วย เสียงเคาะเหล็กสามเหลี่ยมในเพลงคลาสสิกจะมีอาการหลบปลาย (roll-off) ลงฟังสบายหู แต่ไม่พุ่งปลายเป็นพลุแตกออกมาจากด้านหลังเวที ซึ่งก็ต้องเลือกเอาว่าชอบแบบไหน

อัลบั้ม : A World Of Love (WAV-16/44.1)
ศิลปิน : Ayako Hosokawa
สังกัด : FIM Records

อัลบั้มนี้บันทึก, มิกซ์ และทำมาสเตอร์ออกมาได้ค่าเฉลี่ยที่ให้ผลทางเสียงกำลังดีในหลายๆ ด้าน มวลเสียงดี, การแยกแยะช่องไฟ, ความกระชับตรึงของเสียงแหลมกลางทุ้มที่ทำออกมาได้พอดีๆ ไม่ตึงไปและไม่หย่อนยานไป, เสียงกลางที่มีเนื้อนวลสะอาด ไม่สว่างโพลนและไม่ทึบเกินไป, แอมเบี้ยนต์ที่อบอวลแต่ไม่ทำให้บรรยากาศขุ่น, เสียงโน๊ตเปียโนลอยเป้นเม็ดใสและกลม กังวาน มีทรงเป็นสามมิติ และที่สำคัญมากๆ คือ ไทมิ่งของเพลงที่แม่นยำถูกต้อง ส่งให้จังหวะลีลาของเพลงสามารถสื่อสารอารมณ์ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ฟังแล้วเคลิบเคลิ้ม ลื่นไหล ไม่มีสะดุด

ผมมักจะเอาเพลง ‘Someone That I Used To Loveแทรคที่ 6 ในอัลบั้มนี้เป็นเพลงปิดจบการทดสอบเสมอ คือถ้าอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ประกอบอยู่ในซิสเต็มทดสอบที่ผ่านกระบวนการแม็ทชิ่ง+เซ็ตอัพ+ปรับจูนอย่างลงตัวแล้ว คุณจะฟังเพลงนี้ได้อย่างลื่นไหล ไร้สะดุด อารมณ์เพลงจะพรั่งพรูออกมาให้เสพอย่างอิ่มเอมตั้งแต่วินาทีแรกที่เพลงเริ่มไปจนสิ้นเสียงกลองตอนส่งท้ายเพลง ซึ่งนั่นคือความรู้สึกที่ผมได้รับเมื่อสรุปจบสายลำโพง Furutech รุ่น DSS-4.1 ตัวนี้

สรุป

จริงๆ แล้ว ตลอดเวลาร่วมเดือนที่ผมใช้ในการทดลองสายลำโพงตัวนี้ ผมได้ทดลองฟังเพลงผ่านมันเยอะมาก เพราะใจจริงแล้วผมต้องการเก็บเกี่ยวสิ่งที่สายลำโพงตัวนี้ให้ออกมาไว้ในความทรงจำให้มากที่สุด เหตุผลก็เพราะว่าผมยังไม่เคยมีโอกาสทดสอบสายลำโพงของแบรนด์ Furutech ที่มีระดับราคาสูงขนาดนี้มาก่อน เมื่อมีโอกาสได้ทดสอบรุ่นนี้ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นสูงสุดของสายลำโพงแบบตัดแบ่ง ผมจึงถือโอากสเก็บบันทึกแนวเสียงและคุณภาพเด่นๆ ของสายลำโพงระดับไฮเอ็นด์ฯ ของแบรนด์นี้เอาไว้

ก่อนจะแพ็คสายลำโพงตัวนี้กลับลงกล่องเพื่อส่งคืนตามคำร้องขอของทาง Clef Audio เพื่อส่งต่อให้นักเล่นฯ ที่สนใจอยากทดลองฟัง (คิวแน่นมาก!) ผมได้เริ่มทำบทร่างของรีวิวเอาไว้ตั้งแต่ตอนฟังเสร็จใหม่ๆ ซึ่งบอกเลยว่า เสียงของสายลำโพงระดับไฮเอ็นด์ฯ ของ Furutech มันมีลักษณะบุคลิกที่เฉพาะตัวจริงๆ คือมันให้ออกมาทั้งความสด พลัง แต่ในขณะเดียวกันก็ดันมีความสุภาพ ถ่อมตนแฝงออกมาด้วย ถ้าให้ตีความคำว่า สุภาพถ่อมตนที่ว่า ก็น่าจะหมายถึงลักษณะของเสียงที่สะอาด มีการควบคุมที่ดี เก็บรวบปลายเสียงในย่านแหลมปลายและทุ้มปลายๆ ไว้ได้ดี เสียงโดยรวมจึงออกมาไม่รุ่มร่าม ไม่กระโชกโฮกฮาก ไม่หยาบเถื่อน ประมาณนี้.. ส่วนที่เหลือคุณคงต้องไปทดลองฟังกันเอาเองอีกที อย่าลืมนึกถึงลักษณะของขั้วต่อสายลำโพงด้วยนะ ระหว่างชุบทองกับชุบโรเดี้ยมมันให้ปลายเสียงแหลมต่างกัน ลองเลือกกันดู …

********************
ราคา :
สายลำโพง DSS-4.1 = 21,500 บาท / เมตร (ระบุความยาวได้)
ขั้วต่อก้ามปูรุ่น FT-211 (R) = 8,000 บาท / ชุด (4 ตัว)
ขั้วต่อบานาน่ารุ่น FT-212 (R) = 9,400 บาท / ชุด (4 ตัว)
ตัวแยกสาย Splitter = 19,200 บาท / ชุด (4 ตัว)
********************
สนใจติดต่อที่ตัวแทนจำหน่าย
Clef Audio โทร. 02-932-5981
facebook.com/ClefAudio

mm

About ธานี โหมดสง่า

View all posts by ธานี โหมดสง่า