รีวิว StackAudio รุ่น AUVA EQ

แค่คิดว่า Vibration (หรือแรงสั่นสะเทือน) ส่งผลกับเสียงของชุดเครื่องเสียงได้อย่างไร.? และมันไปทำให้เกิดผลกับการทำงานของอุปกรณ์เครื่องเสียงได้อย่างไร.? แค่นี้ก็มึนตึบแล้ว ยิ่งเป็นคนที่ไม่ได้ร่ำได้เรียนมาทางด้านฟิสิกส์อย่างแตกฉานจริงๆ ก็ยิ่งมืดแปดด้านเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ และยากมากที่จะค้นพบคำตอบ (ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยังไม่เคยมีใครทำวิจัยเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้เอาไว้)

การพยายามค้นหาเหตุที่มาของปัญหาเป็นเรื่องยาก แต่เชื่อมั้ยว่า การค้นหา วิธีแก้ปัญหากลับกลายเป็นอะไรที่ง่ายกว่ามาก.! บางคนที่ไม่ได้เป็นนักฟิสิกส์ ก็สามารถคิดค้นวิธีแก้ปัญหานี้ได้ คุณกับผมก็สามารถคิดค้นวิธีแก้ปัญหานี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาความรู้ทางด้านฟิสิกส์ระดับสูงแต่อย่างใด ใช้แค่คอมม่อนเซ้นต์+จินตนาการกับการทดลองทำตัวอย่างขึ้นมาแล้วเอาไปลองฟังกับเครื่องเสียงจริงๆ จากนั้นก็ค่อยๆ วิเคราะห์ผลจากสิ่งที่ได้ยิน แกะรอยแบบนี้ไปทีละขั้นตอนคือ ลองฟัง > วิเคราะห์ผลไปหาเหตุ > สรุปเหตุ > ทดลองทำตัวอย่างใหม่โดยอาศัยผลจากการสรุปเหตุ > เอาตัวอย่างใหม่ไปทดลองฟังกับชุดเครื่องเสียง > วิเคราะห์ผลการฟังไปหาเหตุ > สรุปเหตุ … ถ้าคุณขยันปฏิบัติตามขั้นตอนนี้วนไปเรื่อยๆ สุดท้ายคุณก็จะล่วงรู้ถึง ความสัมพันธ์ระหว่าง แรงสั่นสะเทือนกับ ผลที่มันไปกระทบกับเสียงหลังจากนั้น คุณก็จะสามารถ คาดเดาแนวทางในการพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้แก้ปัญหา Vibration ที่ส่งผลกับเสียงของชุดเครื่องเสียงออกมาได้เองโดยอัตโนมัติ..

ผมแอบเชื่อนะว่า เบื้องหลังของผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์เสริมที่ทำออกมาเพื้อใช้แก้ปัญหา Vibration นั้น บางแบรนด์อาจจะใช้วิธีคิดและมีขั้นตอนปฏิบัติในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบที่ผมว่ามาข้างต้นนั่นแหละ.. เพราะคนที่มีความรู้ทางด้านฟิสิกส์แบบลึกซึ้งจริงๆ เขาคงไม่มาเสียเวลาคิดถึงปัญหานี้หรอก ใช้ความรู้ไปทำมาหากินด้านอื่นให้ผลตอบแทนดีกว่าเยอะ..!!

StackAudio
เจ้าของผลิตภัณฑ์นี้.. พวกเขาคือใคร.?

การมีชื่อแบรนด์เป็นความจำเป็นทางธุรกิจ บางผลิตภัณฑ์ใช้ชื่อแบรนด์ในการรันธุรกิจ ในขณะที่บางแบรนด์ใช้ คนในบริษัทที่มีบทบาทอยู่เบื้องหลังแบรนด์นั้นๆ ออกมาทำหน้าที่เป็น brand ambassador คอยโปรโมตแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งแบรนด์ StackAudio ใช้วิธีแรก ถ้าเข้าไปดูข้อมูลที่หน้า ABOUT US ในเว็บไซต์ของแบรนด์ StackAudio คุณจะเจอแต่คำว่า ‘Ourซึ่งหมายถึง พวกเราซึ่งก็คือการพูดแทน พวกเขาที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์แบรนด์ StackAudio นั่นเอง จะไม่มีชื่อบุคคลใดๆ ปรากฏอยู่ในนั้นแม้แต่คนเดียว

และเมื่ออ่านไปถึงหัวข้อที่พูดถึง Innovation หรือ นวัตกรรมที่พวกเขาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของพวกเขา คุณจะพบกับข้อความนี้..

Every HiFi system faces two major challenges: unwanted vibration and electronic interference. Both can mask fine detail and reduce the emotional impact of the music. At Stack Audio, our mission is to manage these sources of distortion — not by changing your system’s sound, but by enhancing what’s already there. We look beyond conventional HiFi thinking — drawing on ideas from other industries to develop innovative solutions with one clear goal: to deliver transparent musical detail and reveal more of your system’s existing character.

“.. ปัญหาที่เครื่องเสียงทุกชุดเผชิญหน้าอยู่มี 2 สิ่ง คือ แรงสั่นสะเทือนที่ไม่ต้องการ กับ การรบกวนทางไฟฟ้า ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จะเข้ามาขวางกั้นความละเอียดอ่อนและทำให้แรงกระตุ้นทางอารมณ์ของดนตรีด้อยลง ภารกิจของพวกเราที่ StackAudio ก็คือจัดการกับความผิดเพี้ยนเหล่านี้ ไม่ใช่เข้าไปเปลี่ยนแปลงเสียงของซิสเต็มของคุณ แต่เข้าไปปลดปล่อยความยอดเยี่ยมที่มีอยู่ออกมา เรามองเลยออกไปไกลเกินกว่าวงการไฮไฟฯ จะคิดถึง มีการประมวลไอเดียจากหลายๆ แหล่งอุตสาหกรรมแล้วนำมาพัฒนาเพื่อจุดประสงค์เดียว นั่นคือ เพื่อนำมาซึ่งเสียงเพลงที่ใสบริสุทธิ์ และเปิดเผยความพิเศษของซิสเต็มของคุณที่มีอยู่ให้ปรากฏออกมา..”

นี่ทำให้เห็นว่า แบรนด์นี้ไม่ได้ให้ความสำคัญที่ คนแต่มุ่งเน้นไปยัง สิ่งที่ทำมากกว่า.. เพราะนอกจากข้อความสวยๆ หรูๆ แล้ว ข้อมูลอื่นๆ ในเว็บไซต์ของแบรนด์นี้ก็จะเน้นหนักไปที่เทคนิดและเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้ในการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ทั้งนั้น

AUVA EQ
Equipment Isolators

ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้มีอยู่ทั้งหมด 6 ตัว แยกเป็น 3 กลุ่มสินค้า โดยที่สองตัวแรกคือ AUVA กับ AUVA EQ เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ลดปัญหาที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือนของลำโพงและเครื่องเสียง, อีกสองตัวถัดไปชื่อว่า SMOOTHLAN กับ SMOOTHLAN REGENERATOR ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้กับระบบเน็ทเวิร์คที่ใช้กับระบบสตรีมมิ่งโดยเฉพาะ ส่วนอีกสองตัวที่เหลือชื่อรุ่นว่า SERENE STABILISER กับ SERENE MAT เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้กับการเล่นแผ่นเสียง แต่ละอย่างดูแล้วน่าสนใจ

ตัวรองใต้เครื่องของแบรนด์ StackAudio ที่ผมได้รับมาทดสอบครั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อรุ่นว่า AUVA EQ ซึ่งตัวอักษร ‘EQที่ต่อท้ายชื่อรุ่น AUVA นั้นคงตัดมาจากคำว่า EQUIPMENT นั่นเอง ตัวผลิตภัณฑ์ถูกบรรจุมาในกล่องกระดาษแข็งสีดำ หนึ่งชุดมี 4 ตัว แต่ถ้าจะใช้แค่ 3 ตัว เขาก็แยกขายให้

รูปร่างภายนอกของตัวรอง AUVA EQ มีลักษณะเป็นก้อนโลหะที่มีความสูงประมาณ 3 ซ.ม. ตัดรอบเป็นวงกลมโดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 4.7 ซ.ม. แล้วเซาะร่องตื้นๆ โดยรอบ 2 วง แบ่งพื้นที่ความสูงออกเป็น 3 ส่วน นัยว่าเพื่อตัดลดพลังงานสั่นสะเทือนที่แพร่ผ่านลงไปบนผิวด้านนอกไม่ให้เคลื่อนแผ่ไปได้อย่างต่อเนื่อง ผิวนอกมีการขัดจนลื่นมือ เคลือบด้วยสีดำด้าน

ด้านบนของตัวรองที่สัมผัสกับฐานของเครื่องมีพิมพ์โลโก้ที่ออกแบบด้วยตัวอักษร SA สีขาวไว้ตรงกลาง เมื่อหงายขึ้นดูด้านล่างนั้น จะพบว่ามีดีไซน์ที่แยกเป็นสองชั้น คือชั้นนอกที่เป็นโลหะนั้นไม่ได้เป็นแท่งตัน แต่ถูกทำให้มีลักษณะกลวง โดยมีวัสดุที่มีความนุ่มๆ หยุ่นๆ (ศรชี้) คล้ายถ้วยยางติดตั้งอยู่ที่ชั้นในอีกวงหนึ่ง ขอบของตัวถ้วยยางนี้มีความหนาประมาณ 0.5 ซ.ม.

ซึ่งถ้วยยางนี้ยึดติดอยู่กับถ้วยโลหะชั้นนอกด้วยเกลียวหนึ่งตัว เมื่อขันเกลียวขึ้นไปจนสุด ขอบด้านล่างของถ้วยโลหะจะอยู่ “สูงกว่า” ขอบด้านล่างของถ้วยยางเล็กน้อย กรณีที่เครื่องที่วางทับอยู่ด้านบนมีน้ำหนักเยอะ น้ำหนักเครื่องจะกดลงไปบนถ้วยยางโดยที่ขอบล่างของถ้วยโลหะลอยอยู่เหนือพื้น ถ้าน้ำหนักเครื่องเยอะถึงจุดหนึ่งจนทำให้ขอบถ้วยโลหะลงมาแตะพื้น คุณสามารถหมุนคลายเกลียวที่ยึดถ้วยยางลงมาเพื่อเพิ่มระยะห่างให้ขอบถ้วยโลหะลอยขึ้นไปเหนือพื้นได้ ถือว่าเป็นการปรับจูนเสียงไปด้วย โดยมีระยะจูนประมาณ 3 ม.ม.

StackAudio Technology
AUVA + CSA & Precision, Rigidity & Shape

พูดถึงอุปกรณ์เสริมที่ใช้รองใต้เครื่องเสียงสมัยก่อนโน้นเป็นอะไรที่คิดง่าย-ทำง่าย แค่เอาไม้มากลึง เอาโลหะมาหล่อ ขึ้นรูปเป็นเดือยแหลมทรงกรวย เราก็ได้ออกมาเป็นทิปโทไว้รองใต้เครื่องเสียงแล้ว แต่ตัวรองใต้เครื่องเสียงยุคนี้สมัยนี้มันมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านั้นเยอะ ยกตัวอย่างของ StackAudio รุ่น AUVA EQ ที่ผมกำลังจะทดสอบนี้ ผู้ผลิตเขาคิดค้นเทคนิคพิเศษที่นำมาใช้ในการลดแรงสั่นสะเทือนให้กับอุปกรณ์เสริมตัวนี้ในลักษณะที่เรียกว่า two-stage isolation system คือเป็นดีไซน์แบบไฮบริดจ์ฯ ที่รวมระบบสลายพลังงานสั่นสะเทือน 2 อย่าง เข้ามาทำงานร่วมกัน อย่างแรกคือ AUVA ที่ใช้เทคนิค particle damping ในการสลายพลังงานสั่น ส่วนเทคโนโลยีตัวที่สองมีชื่อย่อว่า CSA มาจากคำว่า Custom Silicone Absorber

ปรากฏการณ์ในธรรมชาติที่มาของเทคโนโลยี AUVA นี้เรียกว่า particle impact dampening เป็นปรากฏการณ์ที่วัตถุประเภทหนึ่งจะช่วยรองรับและซึมซับ (dampen) พลังงานของอีกวัตถุหนึ่งที่พุ่งมากระทบ เป็นการลดพลังงานที่สะสมอยู่บนวัตถุที่พุ่งมากระทบ ยกตัวอย่างหลุมทรายในสนามกอล์ฟที่ช่วยหยุดพลังเคลื่อนที่ของลูกกอล์ฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเทียบว่าถ้าลูกกอล์ฟตกลงไปบนพื้นแข็ง มันจะไม่หยุด เพราะพื้นแข็งๆ จะไม่ซึมซับพลังงานบนลูกกอล์ฟไว้ แต่กลับทำให้ลูกกอล์ฟเด้งสะท้อนต่อไปด้วยพลังงานที่มีอยู่ในตัว

วิศวกรของ StackAudio ตีโจทย์ในการซับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นกับชุดเครื่องเสียงเอาไว้น่าสนใจ พวกเขาคิดว่า ถ้าจะให้ได้ผลดี อุปกรณ์ที่ว่านี้จะต้องสามารถลดแรงสั่นสะเทือนได้ “หลายทิศทาง” พร้อมกัน และต้องสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากแรงกระตุ้นจากความถี่ที่ “ครอบคลุมย่านความถี่เสียงได้กว้างมากที่สุด” ด้วย

A = บอดี้ที่มีลักษณะเป็นถ้วยคว่ำ ทำด้วยโลหะ
B = ถ้วยยาง
C = วัสดุโลหะคล้ายลูกปืนขนาดเล็ก
D = เกลียวที่ใช้ยึดถ้วยยางเข้ากับบอดี้ที่เป็นถ้วยโลหะ
E = รูเล็กๆ บนถ้วยยาง ซึ่งจะควบคุมการดูดและคายอากาศภายในครอบถ้วยยางเพื่อสลายแรงสั่น

ด้วยแนวคิดนั้น ทำให้เกิดเป็นอุปกณ์รองใต้เครื่องเสียงรุ่น AUVA EQ ตัวนี้ โดยที่พวกเขาใช้วัสดุประเภทโลหะที่มีลักษณะเป็นเม็ดกลมเหมือนลูกปืน แต่มีขนาดเล็กจิ๋วจำนวนมาก บรรจุไว้ในช่องภายในตัวบอดี้ทรงถ้วยคว่ำที่ออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งบอดี้ของตัวถ้วยโลหะนี้จะสัมผัสโดยตรงกับเครื่องเสียงเมื่อนำอุปกรณ์ตัวนี้ไปรองใต้เครื่องเสียงชิ้นนั้น เมื่อใดก็ตามที่เกิดแรงสั่นเกิดขึ้นบนตัวเครื่องเสียง ไม่ว่าจะโดยสาเหตุใด แรงสั่น (vibration) นั้นจะถูกถ่ายทอดลงไปที่ผิวด้านบนของบอดี้ของตัว AUVA EQ จากนั้น พลังงานของแรงสั่นนั้นจะถูกดูดกลืนไปที่เม็ดโลหะเล็กๆ ที่อยู่ในช่อง เมื่อเม็ดโลหะเล็กๆ เหล่านั้นซึมซับเอาพลังงานสั่นเข้าไป พลังงานของแรงสั่นส่วนหนึ่งจะถูกแปลงเป็นความร้อนสลายไป อีกส่วนนึ่งจะถูกส่งต่อออกไปให้กับกับเม็ดโลหะอื่นๆ ในทุกทิศทาง และเมื่อเม็ดโลหะที่อยู่รอบๆ ได้รับแรงสั่นไปก็สลายพลังงานบางส่วนออกไปเป็นความร้อนและส่งต่อพลังงานที่เหลือไปที่เม็ดโลหะอื่นๆ ที่อยู่รอบตัว วนไปเรื่อยๆ จนแรงสั่นหมดพลัง (ซึ่งแรงสั่นที่ว่านี้ไม่ได้มีปริมาณเยอะมาก เรียกว่าอยู่ในระดับ micro vibration เท่านั้น)

ในกรณีที่มีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นต่อเนื่องและมีพลังงานเยอะ แรงสั่นนั้นจะถูกลดพลังงานลงด้วยเม็ดโลหะที่อยู่ในช่องลับของบอดี้โลหะ และจะส่งต่อแรงสั่นที่เหลือไปสู่ถ้วยยางที่อยู่ด้านในเพื่อสลายทิ้งไป ซึ่งถ้วยยางนี้ทำด้วยวัสดุซิลิโคนที่ผสมขึ้นมาเป็นพิเศษ มีประสิทธิภาพในการสลายแรงสั่นได้เร็วและไม่สะสมพลังงานในตัวเหมือนยางดิบ และถ้วยยางซิลิโคนนี้ยังทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์ที่ช่วยสกัดกั้นการสะท้อนของแรงสั่นจากพื้นไม่ให้ย้อนขึ้นไปที่ตัวเครื่องเสียงอีกด้วย

ทดลองใช้งาน + ฟังผลทางเสียง

ผู้ผลิตซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ AUVA EQ ตัวนี้ชี้แจงไว้ชัดเจนในเว็บไซต์ของเขาว่า อุปกรณ์เสริมตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้วาง “รองคั่น” อยู่ “ระหว่าง” ตัวเครื่องเสียงกับชั้นวางที่ใช้วางเครื่องเสียงตัวนั้น..

อ๊ะ.. เดี๋ยวๆ ชั้นวางเครื่องเสียงดีๆ ไม่ได้ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนนี้แล้วเหรอ.? ช่วยครับ.. ชั้นวางเครื่องเสียงดีๆ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน “จากภายนอก” ไม่ให้เข้าไปยุ่มย่ามรบกวนอุปกรณ์เครื่องเสียงที่วางอยู่บนชั้นวางเหล่านั้นอยู่แล้ว แต่ในขณะที่ตัวเครื่องเสียงทำงานอยู่นั้น มันจะมีแรงสั่นสะเทือนเบาๆ ระดับ micro vibration เกิดขึ้นบนตัวอุปกรณ์เครื่องเสียงแต่ละตัว ส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากการสั่นของหม้อแปลงกับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของภาคขับหมุนแผ่นของเครื่องเล่นซีดีและเครื่องเล่นแผ่นเสียง ซึ่งแรงสั่นที่ว่านี้มันเกิดขึ้นและแพร่ออกมาจากตัวเครื่อง สุดวิสัยที่ชั้นวางเครื่องเสียงจะสามารถเข้าไปจัดการกับมันได้ทั้งหมด ซึ่งชั้นวางสามารถซึมซับได้เพียงส่วนของแรงสั่นที่ถ่ายทอดจากขาตั้งเครื่องแต่ละตัวลงไปที่แผ่นแพลทของชั้นวางเท่านั้น แต่ช่วงที่เป็น รอยต่อระหว่างขาตั้งของเครื่องกับผิวของแผ่นวัสดุที่ใช้รองรับอุปกรณ์เครื่องเสียงมันจะเกิดการสั่นย้อนกันไปมา มีผลให้มีแรงสั่นบางส่วนย้อนกลับเข้าไปที่ตัวเครื่อง สะสมวนเวียน แบบนี้ไม่สิ้นสุด จากแรงสั่นธรรมดา เมื่อสะสมอย่างต่อเนื่องก็จะกลายสภาพเป็น เรโซแนนซ์ที่ก่อให้เกิดปัญหา distortion ที่รุนแรงมากขึ้นตามมา

บางคนก็เรียกคุณสมบัติของอุปกรณ์เสริมประเภทที่ใช้รองใต้อุปกรณ์เครื่องเสียงแบบนี้ว่า decoupling คือเป็นอุปกรณ์เสริมที่ทำหน้าที่ “ตัดแยก” ระหว่างตัวเครื่องเสียงกับชั้นที่มันวางเพื่อไม่ให้เกิดปฏิสัมพันธ์ (reactions) ที่เชื่อมต่อถึงกัน คือแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นภายในตัวอุปกรณ์เครื่องเสียงเมื่อถ่ายทอดลงมาถึงตัว AUVA EQ แล้ว ระบบกลไกทั้งสองเทคนิคบนตัว AUVA EQ คือ AUVA กับ CSA จะช่วยกันสลายพลังงานสั่นสะเทือนจากตัวเครื่องให้หมดไป ไม่ให้เหลือเล็ดลอดลงไปถึงชั้นวาง ช่วยป้องกันการ “ไหลย้อน” ของพลังงานสั่นสะเทือนไม่ให้วนกลับขึ้นไปที่ตัวเครื่องได้อย่างเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าคุณจะใช้ชั้นวางที่มีคุณภาพสูงขนาดไหน แม้ว่าชั้นวางเหล่านั้นจะป้องกันแรงสั่นสะเทือนจากภายนอกได้อย่างเด็ดขาดแล้วก็ตาม แต่ชั้นวางเหล่านั้นจะไม่สามารถขจัดแรงสั่นที่เกิดขึ้นในตัวอุปกรณ์เครื่องเสียงได้ ต้องอาศัยอุปกรณ์เสริมประเภทที่มีคุณสมบัติเป็น decoupling เข้ามาช่วย อย่างเช่นตัว AUVA EQ ของ StackAudio ตัวนี้ก็จะเข้ามาช่วยสกัดแรงสั่นสะเทือนระดับ micro vibration ที่เกิดบนตัวเครื่องไม่ให้แพร่กระจายไปที่ส่วนอื่นๆ ถือว่าเป็นการ “ตัดวงจร” ที่ชั่วร้ายของ vibration ในระบบลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ.!!!

วิธีวาง..

ในเว็บไซต์ของแบรนด์นี้เขามี FAQ ที่ตอบข้อสงสัยพร้อมให้คำแนะนำในการใช้งานอุปกรณ์เสริมตัวนี้ไว้ด้วย ( https://stackaudio.co.uk/auvaeq-3/อย่างเช่น ควรจะใช้ 3 หรือ 4 ตัว.? ผู้ผลิตเขาก็แนะนำว่าควรใช้ “เท่ากับ” จำนวนขาตั้งที่เครื่องเสียงชิ้นนั้นให้มา เหตุผลสนับสนุนคือเขาว่า เพราะผู้ผลิตเครื่องเสียงชิ้นนั้นๆ น่าจะได้มีการ “ไฟน์จูน” มาแล้วเกี่ยวกับการเฉลี่ยน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงของเครื่องที่ส่งผลดีที่สุด นั่นคือ ถ้าเครื่องเสียงมีขาตั้ง 4 ขา ก็ควรรองด้วย AUVA EQ จำนวน 4 ตัว ซึ่งเขาแนะนำว่า ถ้าทำได้ให้ถอดขาตั้งของเครื่องเสียงออกแล้ววางตัว AUVA EQ แต่ละตัวลงไปตรงกับตำแหน่งที่ติดตั้งขาตั้งเหล่านั้น แต่ถ้าถอดขาตั้งไม่ได้ ก็ให้วางตัว AUVA EQ ไว้ในตำแหน่งที่ใกล้กับขาตั้งแต่ละจุดให้มากที่สุด ถ้าเครื่องเสียงชิ้นไหนมีขาตั้งแค่ 3 ขา ก็รองตัว AUVA EQ แค่ 3 ตัว พอ

ถ้าไม่ถอดขาตั้งเดิมของเครื่องเสียงออก แต่ใช้วิธีวางตัว AUVA EQ ไว้ใต้ขาตั้งเดิมได้มั้ย.? ผมทดลองดูแล้ว โดยวาง AUVA EQ ไว้ใต้ขาตั้งเดิมทั้ง 4 ขา พบว่า เสียงออกมาไม่ดี กลาง/แหลมลอย เบสหาย สู้วางตัว AUVA EQ ไว้ใต้เครื่องให้ส่วนบนของตัว AUVA EQ แตะอยู่กับใต้ท้องเครื่องโดยตรงให้ผลทางเสียงที่ดีกว่า

จากการทดลองใช้ AUVA EQ รองใต้เพาเวอร์แอมป์ Jeff Rowland รุ่น Model 555 (ตัวบน) กับตัวล่างเป็นออล-อิน-วัน รุ่น SA45 ของ Arcam (REVIEW) ซึ่งวางอยู่บนชั้นวางแบบชั้นเดียวรุ่น Rack of Silence ของ Solid Tech (REVIEW)

ผมใช้ตัว AUVA EQ จำนวน 3 และ 4 ลูก รองใต้เครื่องเสียงทั้งสองแล้วทดลองฟังเทียบกัน พบว่า รองแค่ 3 ลูก ได้เสียงออกมาน่าพอใจกว่ารอง 4 ลูก คือได้โทนัลบาลานซ์ที่ดีกว่า และรองสามตัวยังได้โฟกัสที่นิ่งกว่า และได้ปลายเสียงที่ทอดยาวมากกว่านิดนึง ในขณะที่รอง 4 ลูก เสียงจะโปร่งกว่า แต่เนื้อเสียงย่านกลางลงไปทุ้มออกมาบาง ทำให้น้ำหนักเสียงอ่อนด้อยลง ลักษณะการวางจะคล้ายๆ กับภาพข้างบน (จุดสีแดงคือตำแหน่งของ AUVA EQ) ซึ่งผมจะวาง AUVA EQ ไว้ใกล้ๆ จุดศูนย์ถ่วงที่มีน้ำหนักเยอะจำนวน 2 ลูก โดยค่อยๆ ขยับเลื่อนตำแหน่งแล้วลองฟังจนได้ตำแหน่งที่ให้เสียงออกมานิ่ง, ได้การย้ำเน้นหัวเสียงที่มีน้ำหนัก, ได้ปลายเสียงที่ทอดตัวยาว และสุดท้ายที่สำคัญที่สุดจะฟัง ไทมิ่งของเสียงที่ไม่อืดช้าและไม่เร่งรัดมากเกินไป ซึ่งการค่อยๆ ขยับเลื่อนหาตำแหน่งรองใต้เครื่องมันช่วยจูนได้จริงๆ อาจจะไม่ได้เยอะแต่ก็มากพอที่จะรับรู้ได้

ผลสรุปทางเสียงจากการใช้อุปกรณ์เสริม AUVA EQ ของ StackAudio

ตอนที่ผมทดลองใช้ AUVA EQ รองใต้เครื่องเสียงที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา จะรู้สึกว่าไม่มั่นคง เพราะเครื่องเสียงตัวเล็กไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะกดทับให้ตัวเครื่องตรึงแน่นอยู่บนตัว AUVA EQ ได้ ถ้าพบว่ามีอาการลื่นไถลนิดๆ เพราะแรงดึงของสายสัญญาณและสายไฟเอซี ผู้ผลิตเขามีแผ่นยางบางๆ มาให้ใช้รองระหว่างใต้ท้องเครื่องกับส่วนบนของตัว AUVA EQ ด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้ตัวเครื่องเสียงติดอยู่บนตัว AUVA EQ ได้แนบแน่นมากขึ้น ติดหนึบมากขึ้น ไม่เลื่อนไถล

หลังจากทดลองเอาตัว AUVA EQ ที่มีอยู่ 4 ตัว ไปรองใต้อุปกรณ์เครื่องเสียงทุกชนิด ไล่ตั้งแต่แหล่งต้นทางสัญญาณ อย่างพวก สตรีมมิ่ง ทรานสปอร์ต และ ext.DAC ไปจนถึงแอมป์ ทั้งเพาเวอร์แอมป์และออล-อิน-วัน ตบท้ายด้วยอุปกรณ์เสริมบางตัวอย่างเช่น ตัวกรองไฟ, เน็ทเวิร์ค สวิทช์ และได้ลองใต้แผ่นไม้ของ Guizu แบบชั้นเดียวที่ใช้วางเครื่องเสียงด้วย ผมก็พอจะได้ข้อสรุปกับการใช้งานตัวรองเครื่องเสียงของ StackAudio รุ่น AUVA EQ ตัวนี้อยู่สอง-สามประเด็น

1. “น้ำหนักของตัวเครื่องเสียง

เครื่องเสียงที่มีน้ำหนักต่างกันมีส่วนสำคัญต่อผลลัพธ์ทางด้านคุณภาพเสียงที่ได้ ซึ่งผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมตัวนี้ได้แยกผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 ระดับ คือ 1, 2, 3 โดยที่แต่ละระดับจะครอบคลุมความสามารถในการรองรับน้ำหนักของตัวเครื่องเสียงต่างกัน

ทั้งสามระดับใช้ตัวบอดี้ที่เป็นถ้วยโลหะแบบเดียวกัน แต่สิ่งที่ทำให้รองรับน้ำหนักได้ต่างกันอยู่ที่ถ้วยยาง CSA คือ เบอร์ 1 จะรองรับได้ตั้งแต่ 0kg ขึ้นไปจนถึงสูงสุดที่ 4kg ต่อลูก ถ้าใช้รองเครื่องละ 3 ลูก สำหรับเบอร์ 1 ก็สามารถรองรับน้ำหนักเครื่องเสียงได้ไม่เกิน 12kg ถ้ารอง 4 ลูก ก็ได้สูงสุด 16kg ส่วน เบอร์ 2 รองรับได้ตั้งแต่ 4kg ขึ้นไปจนถึง 10kg ถ้าใช้รอง 3 ลูก ต่อเครื่อง ก็รองรับได้สูงสุดถึง 30kg ถ้ารอง 4 ลูก ก็รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 40kg และ เบอร์ 3 รองรับได้ตั้งแต่ 10kg ขึ้นไปจนถึงสูงสุดที่ 15kg เมื่อใช้รองพร้อมกัน 3 ลูก ต่อเครื่องเสียงหนึ่งชิ้น จะสามารถรองรับน้ำหนักเครื่องเสียงได้สูงสุดถึง 45kg ถ้าคุณรอง 4 ลูก ก็รองรับได้มากขึ้นถึงระดับสูงสุดที่ 60kg

จากการทดสอบ ผมพบว่า แม้ว่าในสเปคฯ จะระบุขอบเขตของน้ำหนักเครื่องเสียงที่ตัว AUVA EQ รองรับได้เอาไว้ค่อนข้างกว้าง อย่าง เบอร์ 2 ที่ผมได้มาทดสอบนี้ ตอนใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นใช้รองเครื่องเสียงขนาดใหญ่หรือเล็ก มันจะถูกบังคับโดยปริยายให้ต้องใช้ตัว AUVA EQ อย่างต่ำ 3 ลูก ดังนั้น น้ำหนักที่รองรับได้ก็จะครอบคลุมอยู่ระหว่าง 12kg ขึ้นไปจนถึง 30kg ซึ่งจากการทดลองกับเครื่องเสียงที่มีน้ำหนักต่างๆ กัน ผมพบว่า มันให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเมื่อใช้รองเครื่องเสียงที่มีน้ำหนักอยู่ในเร้นจ์ดังกล่าวคือระหว่าง 12kg – 30kg

2. “ประเภทของเครื่องเสียง

เมื่อใช้ AUVA EQ กับเครื่องเสียงที่มีกลไกเคลื่อนไหวขณะทำงาน อย่างเช่นเครื่อเล่นซีดีกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีระบบหมุนแผ่นขณะทำงานจะให้ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจนกว่าเมื่อเทียบกับวางรองใต้เครื่องเสียงที่ไม่มีส่วนเคลื่อนไหวขณะทำงานอย่างเช่นแอมปลิฟาย แต่ก็ต้องเลือกขนาดของ AUVA EQ ที่เหมาะสมด้วย ซึ่งผมมีทริคเล็กๆ สำหรับการใช้งานกรณีนี้ คือแนะนำให้เลือกเบอร์ของ AUVA EQ ที่ แบกน้ำหนักเครื่องที่รองนิดๆ ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเครื่องหนัก 12kg ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถใช้ได้ทั้ง เบอร์ 1 (x3ตัว) และ เบอร์ 2 (x3ตัว) กรณีนี้แนะนำให้ใช้ เบอร์ 1 (x3ตัว) จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

3. “เครื่องเสียงหลอด” เห็นผลชัดมาก.!!

อย่างพวกปรีแอมป์, อินติเกรตแอมป์ รวมถึงเพาเวอร์แอมป์ที่ใช้หลอดไม่ว่าจะในส่วนไหนของวงจร จะได้รับอานิสสงฆ์จากตัวรอง AUVA EQ ค่อนข้างชัดเจน ผมลองเอา AUVA EQ จำนวนสามลูกไปรองใต้อินติเกรตแอมป์รุ่น Saturn Signature ของยี่ห้อ Dared ที่ผมใช้งานอยู่ (REVIEW) ซึ่งมีน้ำหนักอยู่ที่ 18kg พบว่า มันช่วยให้โฟกัสของเสียงนิ่งขึ้นอย่างชัดเจน และได้น้ำหนักเสียงที่ดีขึ้นด้วย

ลักษณะของผลที่เกิดกับเสียงของซิสเต็ม

ก่อนอื่น แนะนำอย่างยิ่งให้ทำการ “แม็ทชิ่ง+เซ็ตอัพ+ปรับจูน” ซิสเต็มให้ได้ผลลัพธ์ที่พอใจก่อนจะเริ่มต้นเอา AUVA EQ ไปทดลองรองใต้อุปกรณ์เครื่องเสียงแต่ละชิ้น เนื่องจากอุปกรณ์เสริม AUVA EQ ตัวนี้จะส่งผลกับ “คุณภาพเสียง” เป็นหลัก ส่วนบุคลิกหรือ “โทนเสียง” จะกระทบน้อยมากแทบไม่รู้สึก คือมันจะไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงโทนเสียง หรือบุคลิกเสียงของซิสเต็มไปจากเดิมมาก ดังนั้น คุณจะไม่สามารถใช้ตัวรองเครื่องของ StackAudio ตัวนี้เข้าไปชดเชยความไม่สมบูรณ์ของความแม็ทชิ่งทางด้านโทนเสียงระหว่างอุปกรณ์เครื่องเสียงแต่ละชิ้นในซิสเต็มได้ แม้ว่าตัว AUVA EQ จะส่งผลกับบุคลิกเสียง หรือโทนเสียงบ้าง แต่ในปริมาณไม่มากพอที่จะใช้ชดเชยได้ (ถ้าคุณพยายามก็อาจจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” คืออาจจะได้โทนเสียงที่เอนเอียงมาทางที่คุณชอบ ในขณะที่ทางด้านคุณภาพเสียงของซิสเต็มจะแย่ลงในบางด้าน)

ผมนำ AUVA EQ เบอร์ 2 ที่มีอยู่เข้าไปใช้งานในซิสเต็มที่ผ่านขั้นตอน แม็ทชิ่ง+เซ็ตอัพ+ปรับจูนมาอย่างลงตัวแล้ว พบว่า เมื่อใช้ AUVA EQ จำนวน 3 ลูก เข้าไปรองใต้อุปกรณ์เครื่องเสียงที่มีคุณสมบัติทางด้าน “น้ำหนักอยู่ในข่ายที่แนะนำไว้ข้างต้น คือน้ำหนักระหว่าง 12kg – 30kg ตัว AUVA EQ จะทำให้ได้ความโปร่งใสของพื้นเสียงที่ดีขึ้น ได้ความนิ่งของโฟกัสของเสียงมากขึ้น แต่เมื่อนำไปรองใต้อุปกรณ์เครื่องเสียงที่มีน้ำหนักเบากว่าความสามารถในการรองรับของตัว AUVA EQ เบอร์ 2 จำนวน 3 ลูก คือน้ำหนักต่ำกว่า 12kg ลงไป ผมพบว่าเสียงโดยรวมจะออกไปทางบาง น้ำหนักเสียงลดลง เสียงจะยกตัวลอยขึ้นแต่ขาดน้ำหนัก เบสจะไม่ลงพื้น สรุปฟันธงได้ว่า น้ำหนักของเครื่องเสียงมีส่วนกับผลลัพธ์ของตัว AUVA EQ อย่างชัดเจน

จากการทดลองรองใต้เพาเวอร์แอมป์ Jeff RowlandModel 555ซึ่งมีน้ำหนักอยู่ที่ 15kg และรองใต้ออลอินวันรุ่น SA45 ของ Arcam ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 17kg ผมพบว่า ได้เสียงออกมาน่าพอใจมาก เวทีเสียงลอยตัวขึ้นมาเหนือลำโพง พื้นเสียงโปร่งสะอาดมากขึ้น สามารถรับรู้รายละเอียดที่อยู่ในเพลงได้ชัดขึ้น ทั้งที่เป็นเสียงที่เบามากๆ ก็ปรากฏขึ้นมาให้ได้ยิน ส่วนเสียงที่ดังมากๆ (พีค) ก็สามารถควบคุมได้ดีขึ้น ไม่ฟุ้งและไม่แตกซ่าน ปลายเสียงทอดยาวและพลิ้วมากขึ้น

อีกคุณสมบัติของเสียงที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อใช้รองใต้แอมป์ นั่นคือ “น้ำหนักของเสียง” ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้รับรู้ถึงการย้ำเน้นน้ำหนักทัชชิ่งของนักดนตรีที่กระทำลงไปบนเครื่องดนตรีได้ชัดขึ้น ส่งผลให้หัวโน๊ตลอยชัดออกมามากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ยินมีลักษณะคล้ายกับเปลี่ยนไปใช้แอมป์ที่มีกำลังสูงขึ้น..!!!

สรุป

ปกติแล้ว อุปกรณ์เสริมประเภทที่เป็นตัวรองใต้เครื่องจะมีดีไซน์อยู่ 2 แนวทาง แบบแรกคือ ใช้วัสดุที่มีความแข็งอย่างเช่นโลหะชนิดต่างๆ เป็นพื้นฐานในการรองรับน้ำหนักของเครื่องและสลายพลังงานความสั่นสะเทือน ซึ่งจะส่งผลไปถึงโทนเสียงของซิสเต็มด้วย คือให้เสียงที่ออกไปทางเปิดสว่าง (bright) กระจ่างชัด กลาง/แหลมเด่น เบสเร็วกระชับ ไทมิ่งโดยรวมจะไปทางกระฉับกระเฉง ฉับไว ในขณะที่อีกแบบจะใช้วัสดุที่มีลักษณะนุ่มนิ่ม อย่างพวก ยางหรือพีวีซี ซึ่งกลุ่มนี้จะส่งผลกระทบกับโทนเสียงของซิสเต็มในลักษณะที่ออกไปทางสลัว (dark) แหลมเก็บรวบปลายแบบโรยตัวไม่พุ่งเปิด ในขณะที่กลางจะมีมวลหนา ส่วนทุ้มจะอวบอิ่ม ไทมิ่งโดยรวมจะไปทางอืดช้า ซึ่งทั้งสองแนวทางนั้นไม่มีใครดีกว่าใคร เป็นทางเลือกที่ขึ้นอยู่กับ “ปัญหาพื้นฐาน” ทางด้าน vibration ของซิสเต็มว่าจะเกิดขึ้นที่ย่านความถี่ไหน

สำหรับแนวทางการออกแบบและปรับจูนของ StackAudio ตัวนี้ พวกเขาเลือกที่จะปรับจูนให้มันมีผลกลางๆ สำหรับโทนเสียง คือพยายามเข้าไปยุ่งกับ “โทนเสียง” ให้น้อยที่สุด โดยเน้นเข้าไปจัดการขจัด vibration ของอุปกรณ์เครื่องเสียงเป็นหลัก เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยของคุณภาพเสียงทางด้านไดนามิก, โฟกัส, ฮาร์มอนิก และเวทีเสียง ที่ดีขึ้น นั่นคือเหตุผลที่เขาใช้โครงสร้างที่ทำด้วยวัสดุที่แข็งอย่างโลหะทำงานร่วมกับวัสดุที่นิ่มอย่างยางซิลิโคน ก็เพื่อผสมผสานให้ได้ “โทนเสียง” ออกมากลางๆ นั่นเอง เป็นอุปกรณ์เสริมที่ให้ทั้งไดนามิกและเนื้อเสียงที่น่าพอใจออกมาพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่หาได้ยากมากจากอุปกรณ์เสริมประเภทที่ใช้รองใต้เครื่องเสียงลักษณะนี้ ดังนั้น ถ้าคุณพอใจ โทนเสียงของซิสเต็มอยู่แล้วแต่อยากจะเพิ่มเติมเฉพาะส่วนของ คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น StackAudioAUVA EQตัวนี้คือคำตอบสำหรับคุณ.!!!

StackAudioAUVA EQเป็นอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับคนที่มีฝีมือในการจัดการกับซิสเต็มให้ได้เสียงออกมาดีด้วยเทคนิค แม็ทชิ่ง+เซ็ตอัพ+ปรับจูนเป็นพื้นฐาน ซึ่งตัว AUVA EQ จะเข้าไปช่วยเสริมในขั้นตอนปรับจูนเพื่อยกระดับในส่วนของ คุณภาพเสียงของซิสเต็มขึ้นมาโดยเข้าไปแตะต้องกับ โทนเสียงน้อยที่สุด ซึ่งนี่แหละคือแนวทางของอุปกรณ์เสริมที่นักเล่นฯ ที่มีประสบการณ์ในการเซ็ตอัพชุดเครื่องเสียงต้องการ แนะนำให้นักเซ็ตอัพเครื่องเสียงและลำโพงหามาลองใช้เป็นอาวุธลับในการสร้างเสียงที่ยกสูงขึ้นไปอีกระดับ..!!!

*************************
ราคา :
3 ลูก = 8,900 บาท / ชุด
4 ลูก = 11,800 บาท / ชุด
*************************
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
Clef Audio
โทร. 02-932-5981

mm

About ธานี โหมดสง่า

View all posts by ธานี โหมดสง่า