ผมพบอุปกรณ์ตัวนี้โดยบังเอิญ คือตอนทดสอบอุปกรณ์ชนิดเดียวกันนี้คือ DAC/Headphone Amp รุ่น PDAC ของ Audiolab ซึ่งออกแบบมาให้ใช้กับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Android โดยเฉพาะ ซึ่งได้ลองฟังกับสมาร์ทโฟนของเพื่อนฝูงแล้วเสียงดีมาก ราคาก็ถูก ทำให้ผมรู้สึกขัดใจมาก.! เพราะส่วนตัวใช้ iPhone 7 เป็นอาวุธคู่กายอยู่ เลยพยายามค้นหาวิธีที่จะทำให้ PDAC ตัวนั้นใช้กับ iPhone ของผม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบหนทาง ค้นไปค้นมาเลยมาเจอคนพูดถึง DAC/Headphone Amp ของ Fiio ตัวนี้ในเว็บไซต์ซึ่งออกแบบมาให้ใช้กับ iDevice โดยเฉพาะ ราคาก็ถูกแค่ตัวละ 1,590 บาทเท่านั้นเอง ผมเลยหมายตาไว้ว่ามีโอกาสต้องลองฟังให้ได้!
ไปเจอที่ฮ่องกง
หลังเดินงาน Hong Kong High End Audio-Visual Show 2018 เสร็จ ผมก็ไปเดินเที่ยวสำรวจตลาดที่มงก๊ก ขึ้นไปตึก Sim City เดินไป–เดินมาก็เจอ Fiio : i1 ตัวนี้แขวนขายอยู่สอง–สามร้าน ราคาอันละ 380 เหรียญ x 4.25 = 1,615 บาท แพงกว่าซื้อในบ้านเราซะอีก แต่ด้วยความอยากลองเลยซื้อมาลองให้หายอยาก
รูปร่างหน้าตา
เนื้อในของตัว DAC/Headphone Amp รุ่น i1 ตัวนี้ถูกบรรจุมาในตัวถังที่มีลักษณะกลมทรงกระบอก ขนาดเล็กกระทัดรัด บอดี้ทำด้วยโลหะ ความยาวอยู่ที่ 4.55 ซ.ม. เส้นผ่าศูนย์กลางเพียงแค่ 0.95 ซ.ม. เคลือบสีดำ ปลายด้านหนึ่งมีสายสัญญาณยาว 80 ซ.ม. เชื่อมตายตัวออกมาจากตัวบอดี้ ในขณะที่ส่วนปลายติดขั้วต่อ Lighning ตัวผู้สำหรับเสียบเข้าที่เต้าเสียบ Lighning ตัวเมียที่อุปกรณ์ iDevices (iPod/iPhone/iPad)
ส่วนอีกด้านของตัวบอดี้มีรูเสียบขนาด 3.5 ม.ม. ไว้เสียบแจ๊คหูฟัง..
MFi = Made For iDevice
บนตัวบอดี้ของ i1 มีปุ่มกดปรับเพิ่ม/ลดวอลลุ่มและหยุดเพลงเพื่อรับสาย กับมีไมโครโฟนรับเสียง ซึ่งสอดรับกับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ iDevice ของแอ๊ปเปิ้ลด้วย แสดงว่าดีเวลลอปเปอร์ที่ดูแลซอฟท์แวร์ให้กับ Fiio : i1 ตัวนี้เขียนไดเวอร์อิงมาตรฐาน MFi ที่แอ๊ปเปิ้ลกำหนดไว้
เทคโนโลยีในตัว i1
ผมเข้าไปเช็คในเว็บไซต์ของ Fiio พบข้อมูลว่า Fiio : i1 ตัวนี้ใช้ชิป DAC เบอร์ NAU88L25 ของแบรนด์ Nuvoton Technology จากประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นชิปเซ็ตแบบโลว์เพาเวอร์ที่ออกแบบมาเพื่องานพกพาโดยเฉพาะ มีทั้งส่วนที่เป็น DAC และ ADC คุณภาพสูงอยู่ในตัว ตัว ADC นั้นใช้แปลงเสียงจากช่องไมโครโฟน ส่วนภาค DAC ใช้อินเตอร์เฟซ I2S/PCM ในการรองรับสัญญาณดิจิตัล ออดิโอจากภายนอก และรองรับแซมปลิ้งเรตของสัญญาณดิจิตัล ออดิโอได้ตั้งแต่ 8K ไปจนถึง 192kHz
นอกจากภาค DAC และ ADC แล้ว ในชิปเซ็ต NAU88L25 ยังมีภาคขยาย Class G* สเตริโอขนาดกำลังขับ 28mW ที่โหลด 32 โอห์ม บรรจุอยู่ในนั้นด้วย โดยมีค่า THD+Noise บนตัวชิปอยู่ที่ 1% ในขณะที่ Fiio นำไปปรับจูนได้สเปคฯ กำลังขับอยู่ที่ 30mW บนโหลด 16 โอห์ม ตลอดย่านความถี่ตอบสนอง 20Hz-20kHz กับความเพี้ยนฮาร์มอนิกรวมสัญญาณรบกวนที่วัดที่ความถี่ 1kHz ออกมาได้ “ต่ำกว่า” 0.003%
* ในแอมปลิฟายของ Arcam ของอังกฤษรุ่นใหม่ๆ ก็ใช้เพาเวอร์แอมป์ดิจิตัล Class G เช่นกัน และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นใช้ในอุปกรณ์พกพาแบบนี้
ลองใช้งาน + ฟังเสียง
ผมใช้ iPhone 7 ลงแอพฯ Onkyo HF Player เป็นตัวเล่นไฟล์เพลงที่ผมใส่ลงไปในแอพฯ โดยตรง ซึ่งมีทั้งไฟล์ WAV16/44.1, WAV24/48, WAV24/96 และ WAV24/192 ไปจนถึง DSD64 (2.8MHz) ซึ่งตอนเล่นไฟล์ที่มีสเปคฯ สูงกว่า 48kHz ขึ้นไป ตัวแอพฯ Onkyo HF Player จะทำการ downconvert ลงมาอยู่ที่ระดับ 44.1kHz หรือ 48kHz ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งผลลัพธ์ของเสียงที่ได้ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเมื่อขับหูฟัง in-ear จำนวน 3 ตัวที่ผมมีอยู่คือ Shozy : Hibiki, JVC : HA-FD02 และ beyerdynamic : XELENTO REMOTE ทว่า คุณต้องเข้าไปในเมนูของแอพ Onkyo HF Player คอยสลับเลือกโหมดอัพแซมปลิ้งระหว่าง “44.1kHz” ตอนเล่นไฟล์ 44.1kHz, 88.2kHz, 176.4kHz, 352.8kHz และ DSD ทั้งตระกูล ตั้งแต่ DSD64 ไปจนถึง DSD256 กับโหมด “48kHz” ตอนคุณเล่นไฟล์ 48kHz, 96kHz, 192kHz หรือ 384kHz ซึ่งเป็นอ๊อปชั่นที่ทำให้ได้คุณภาพเสียงจาก DAC/Headphone Amp ของ Fiio : i1 ออกมาดีที่สุด
เสียงของ Fiio : i1 ออกมาดีกว่าที่ผมคาดไว้มาก ยอมรับว่าตอนแรกผมไม่ได้คิดว่ามันจะออกมาดีอย่างนี้ คงเป็นเพราะราคาของมันนั่นเองที่ทำให้ผมประเมินมันไว้ต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งก่อนหน้าที่ผมจะมาลองฟังเพลงผ่าน DAC/Headphone Amp ของ Fiio ตัวนี้ ผมใช้อะแดปเตอร์ DAC/Headphone Amp ของแอ๊ปเปิ้ลแท่งสีขาวๆ ราคาสามร้อยกว่าบาทอยู่ก่อนนี้ ซึ่งคุณภาพของอะแด๊ปเตอร์ก็นับว่าดีเกินราคาเมื่อใช้ฟังเพลง แต่เมื่อเทียบกับเสียงที่ได้จาก Fiio : i1 ตัวนี้แล้วถือว่าห่างชั้นกันมาก.!
ในการทดสอบของผม ผมทดลองเล่นไฟล์ที่เป็นฟอร์แม็ต Hi-Res ทั้ง PCM และ DSD เทียบกับไฟล์ที่เป็น CD quality 16/44.1 ผมพบว่า i1 ให้เสียงออกมาดีในระดับที่น่าพอใจไม่ต่างกัน ภาค DAC กับเพาเวอร์แอมป์ Class G ในตัว Fiio : i1 ทำงานได้ผลดีอย่างน่ามหัศจรรย์ น้ำเสียงที่ได้ออกมามีความเป็นไฮเอ็นด์ฯ ระดับสูงอย่างเต็มภาคภูมิ ผมยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานเลยว่า ผมสามารถใช้ชีวิตอยู่กับเสียงของ Fiio : i1 ตัวนี้ได้อย่างสบายๆ ขอเพียงไฟล์เพลงดีๆ เท่านั้น
ราคาแค่พันกว่าบาท คุณคงสงสัยว่า เสียงมันจะดีขนาดไหน.? ถ้าคุณเป็นคนที่วัดคุณภาพเสียงของอุปกรณ์เครื่องเสียงด้วย “ราคาขาย” ผมเดาว่าคุณคงไม่เชื่อสิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้ อย่างแรกที่ i1 ทำให้ผมอึ้งคือ “ไดนามิก” ซึ่ง i1 ให้ออกมาได้ดีมากทั้งในแง่ทรานเชี้ยนต์ฯ และคอนทราสน์ฯ นั่นหมายความว่า มันฟังดีทั้งกับเพลงช้าๆ ที่เน้นความอ้อยสร้อย เนิบเอื่อย อย่างเพลงแนวสแตนดาร์ด แจ๊สช้าๆ ที่ให้อารมณ์ลุ่มลึก ไปจนถึงเพลงเร็วที่มาพร้อมสปีดที่ฉับไวและอิมแพ็คที่กระชับ กระแทกกระทั้น อย่างเพลงร็อคที่ให้อารมณ์พลุ่งพล่าน
ผมไม่รู้ว่าทีมงานเบื้องหลัง i1 ทำการปรับจูนเสียงของ i1 อย่างไร พวกเขาจึงสามารถทำให้มันปลดปล่อยไดนามิกในการย้ำเน้นเสียงแต่ละเสียงออกมาได้ดีมากขนาดนั้น มันทำให้อิมแพ็คของหัวเสียงโน๊ตทุกตัวมีน้ำหนักทัชชิ่งของมันเอง คุณจะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักนิ้วที่มือเปียโนพรมลงไปบนคีย์เปียโนแต่ละคีย์ที่ให้ความหนัก–เบาต่างกัน พร้อมกันนั้น คุณก็จะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักเท้าที่มือกลองกดลงไปบนไม้เคาะกระเดื่อง ซึ่งทำให้รับรู้ถึงน้ำหนักของหนังกลองที่เด้งรับออกมาเป็นความถี่ต่ำที่หนักและแน่น (เพลง “Someone That I Used To Love” จากอัลบั้มชุด A World Of Love ของ Ayako Hosokawa / Three Blind Mice / WAV 16/44.1)
อีกประเด็นหนึ่งที่ Fiio : i1 ทำให้ผมประหลาดใจมาก คือที่ผ่านมา ผมก็เก็บไฟล์ DSD ไว้ในแอพ Onky HF Player อยู่เสมอ ไว้ลองฟังในสถานะการณ์ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา ผมพบว่า DAC/Amp ส่วนมากที่ภาค DAC ไม่ได้รองรับการแปลงสัญญาณ DSD ได้โดยตรง ต้องแปลงเป็นสัญญาณ PCM ก่อนมักจะให้เสียงของไฟล์เพลง DSD ออกมาแย่ บางตัวนั้นออกมานุ่มนิ่มไปหมด ไดนามิกนัวเนียมาก ไม่จะแจ้ง ไม่สดกระจ่าง บางตัวก็ให้เสียงไฟล์ DSD ออกมาบางจ๋อย เหมือนความถี่บางย่านหายไป เข้าใจว่าเป็นเพราะวงจร SRC (Sample rate conversion) กับวงจรดิจิตัลฟิลเตอร์ที่ใช้ในการแปลงสัญญาณ DSD เป็น PCM ยังทำงานออกมาได้ไม่ดีพอ แต่ต้องยอมรับว่า ซอฟท์แวร์ที่ทำงานในฟังท์ชั่น SRC กับฟังท์ชั่น format conversion ของแอพฯ Onkyo HF Player กับอินพุตของ Fiio : i1 มันทำงานประสานรับกันได้อย่างลงตัวมาก ไม่เกินอาการ mismatch ในการรับ/ส่งสัญญาณระหว่างกัน ทำให้แทบจะไม่เกิดปัญหาเฟสผิดเพี้ยนและไม่มีปัญหา timing error ปรากฏออกมากับสัญญาณเพลงเลย ส่งผลให้ได้ทั้งอัตราสวิงไดนามิกที่ดีเยี่ยม สนองตอบต่อลักษณะการกระชากไดมามิกขึ้น/ลงของสัญญาณฉับพลันได้อย่างกว้างขวางและเป็นอิสระอย่างยิ่งยวด อีกทั้งยังให้ตำแหน่งแหล่งที่ของอิมเมจตัวเสียงที่มั่นคงและนิ่งสนิท โฟกัสแม่นเป๊ะ คงที่ตรึงอยู่ในโสตประสาทได้นาน ไม่มีอาการวูบวาบเลย แม้ว่าชิ้นดนตรีชิ้นนั้นจะเคลื่อนไหวอยู่ในลีลาของเพลงด้วยอัตราความเร็วมากเพียงใด หรือดังอยู่ท่ามกลางเสียงดนตรีอื่นๆ ก็ตาม
ในแง่ “โทนเสียง” ก็เป็นอะไรอีกอย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่ i1 นำเสนอออกมา คือโดยมากแล้ว ถ้าไดนามิกดี เสียงสดกระจ่าง สิ่งที่ตามมาเป็นของแถมที่ไม่ต้องการก็มักจะเป็นลักษณะของเสียงที่แห้งและหยาบกร้าน โดยเฉพาะในย่านแหลมที่มักจะจ้าโพลนเกินไปเสมอ แต่ไม่น่าเชื่อว่า.. i1 ไม่มีอาการอย่างนั้นปรากฏออกมาเลยถ้าไม่เป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในเนื้อไฟล์เพลงเอง เพราะจากการที่ผมทดลองฟังไฟล์เพลงไฮเรซฯ ที่ผมเชื่อมั่นในคุณภาพของเนื้อไฟล์อย่างเช่นไฟล์ WAV 24/192 จากอัลบั้มชุด Harvest ของ Neil Young ที่ผมริปมาจากแผ่น DVD-Audio เมื่อฟังผ่าน Fiio : i1 โดยปรับเลือกโหมด Upsampling Mode ของแอพฯ Onkyo HF Player ไปที่ “48kHz Mode” ผมพบว่า เสียงที่ออกมามีทั้งไดนามิกที่หนักแน่น และมีทั้งความนวลเนียนปราศจากเสี้ยนหยาบของเนื้อเสียงใดๆ ปรากฏออกมาเลย ทุกเสียงมีพลังแฝงอยู่ในตัว เสียงมัน “เต็ม” และแน่นเนียนอย่างมาก
การแยกแยะรายละเอียดของเสียงก็ออกมาดี ทั้งในแง่ของช่องไฟและเลเยอร์ มันจัดวางตำแหน่งเสียงแต่ละเสียงออกมาเป็นที่เป็นทาง เกลี่ยไปในตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ทั้งแนวกว้างและลึกครบทุกมิติโดยไม่มีอาการขุ่นมัว ไม่มีอาการเบลอ มันจัดการได้อย่างดีเยี่ยมแม้กับเพลงที่จัดการได้ยากอย่างแนวเพลงคลาสิค ซึ่งผมพิสูจน์ความสามารถในแง่นี้ของ i1 ด้วยอัลบั้มรวมเพลงชุด Tutti! (DSD stereo จากแผ่น SACD ของค่าย Reference Recordings) มันสามารถควบคุมความถี่ตลอดทั้งย่านเสียงให้ปรากฏออกมาได้อย่างชัดเจน มีพลังดีดตัว และให้ตำแหน่งที่นิ่งสนิท เสียงกลองทิมปานีมีขนาดที่ใหญ่ มีพลังกระแทกกระทั้นและลงได้ลึก ในขณะที่เสียงไวโอลินและเครื่องสายอื่นๆ ก็พลิ้วไสว กังวานและละเอียด ทั้งหมดนั้นปรากฏชัดออกมาโดยไม่มีการเบียดบังกันเองเลย
สรุป
เกินคาดมาก.!! ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่า DAC/Headphone Amp ตัวเล็กๆ จิ๋วๆ ขนาดนี้จะให้เสียงออกมาดีมากขนาดนี้.!!!
ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านี้แล้วครับ.. นอกจากอยากจะฝากไว้ว่า ถ้าคุณใช้ iPhone เป็นสมาร์ทโฟนคู่กาย เป็นรุ่นที่มีความจุข้อมูลสูงๆ และใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องเล่นไฟล์เพลงอยู่ในขณะนี้ ผมแนะนำให้คุณหาโอกาสไปทดลองฟังอะแด๊ปเตอร์ DAC/Headphone Amp ตัวนี้ดูสักหน่อย มันดีจนผมนอนไม่หลับมาหลายคืน ฟังมันกับไฟล์เพลงที่มีอยู่จำนวนมากมาแล้วนับร้อยชั่วโมงหลังจากได้มันมาจนมั่นใจก่อนจะมานั่งเขียนรีวิวนี้ ตอนนี้ผมพบว่ามันไปได้ดีมากกับหูฟังอินเอียร์ Shozy : Hibiki และเข้ากันได้ดีเลิศกับหูฟังอินเอียร์ของ JVC รุ่น HA-FD02 (รีวิวจะตามมาเร็วๆ นี้) และเชื่อว่ามันจะไปได้ดีกับหูฟังอินเอียร์อีกหลายตัวที่มีอิมพีแดนซ์อยู่ระหว่าง 16-32 โอห์ม
อือมม.. บอกเลย ตอนนี้อยากลองฟังคู่กับหูฟัง 64 Audio รุ่น N8 มากเลย.!!! /
*************************