PSB เป็นแบรนด์ผู้ผลิตลำโพงเก่าแก่สัญชาติแคนาดา ก่อตั้งมาตั้งแต่ ปี 1972 โดย Paul Barton ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมออกแบบ กับ Sue Barton ผู้เป็นภรรยา ที่มาของชื่อแบรนด์ก็คือตัวอักษรตัวนำของ Paul & Sue Barton นั่นเอง
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้มีแต่ลำโพงอย่างเดียว โดยแบ่งออกเป็น 5 Series เริ่มจากใหญ่สุดลงไปถึงเล็กสุดคือ Synchrony, Passif, Imagine, Alpha และ Imagine X ซึ่งที่ผ่านมาผมเคยทดสอบผลิตภัณฑ์ในซีรี่ย์ Synchrony ไปแล้วหนึ่งรุ่นคือ Synchrony T600 (REVIEW) และในซีรี่ย์ Passif ซึ่งมีอยู่รุ่นเดียวคือ Passif 50 (REVIEW) เป็นรุ่นที่ทำออกมาเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ PSB และผมก็ได้ทำการทดสอบไปแล้วเช่นกัน
ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์มา PSB ได้รับการยอมรับในวงการอย่างกว้างขวางในแง่ที่เป็นลำโพงที่ให้คุณภาพเสียงคุ้มค่ากับราคามากที่สุด (best value for money) คือถ้าใช้ “ราคาขาย” เป็นตัวตั้งไปเทียบกับลำโพงของแบรนด์อื่นๆ ส่วนใหญ่ที่มีราคาเท่าๆ กัน จะพบว่า ลำโพงของ PSB จะให้ภาพรวมของคุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่สูงกว่า ซึ่งประจักษ์พยานที่ช่วยยืนยันถึงความจริงในข้อนี้ก็คือ รางวัลจำนวนมากที่ได้รับจากสื่อในวงการเครื่องเสียงตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจเป็นต้นมา
PSB Imagine T65
ลำโพงตั้งพื้นขนาดกลาง
Imagine T65 เป็นลำโพงรุ่นใหญ่สุดในซีรี่ย์ Imagine ซึ่งอยู่ในระดับกลางๆ ของแบรนด์นี้ ตัวตู้เป็นแบบตั้งพื้น (floor standing) ที่มีความสูงเพียงแค่ 98.6 ซ.ม. เท่านั้น เทียบกับความสูงที่ 165 ซ.ม. ของผมก็อยู่ราวๆ ใต้ลิ้นปี่ เมื่อมองด้วยสายตาจากสัดส่วน กว้างxลึกxสูง แล้ว ก็ถือว่าไม่ใหญ่–ไม่เล็ก เรียกว่ากำลังสวย ตั้งอยู่ในห้องฟังขนาดกลางที่มีหน้ากว้าง 3.6 เมตร ของผมแล้วดูดีมาก ประกอบกับน้ำหนักแค่ข้างละ 20 กิโลกรัม เท่านั้น สามารถยกขยับเคลื่อนย้ายตำแหน่งด้วยตัวคนเดียวได้สบายๆ
ผนังตู้ทุกด้านประกอบร่างขึ้นมาด้วยแผ่นไม้ MDF ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแผงหน้า, ผนังข้างซ้าย+ขวา, แผงหลัง และแผ่นบน+แผ่นล่าง ตัวตู้ขัดเรียบลงสีแล้วเคลือบ ซึ่งทั้ง 3 รุ่นในซีรี่ย์เดียวกันนี้มีให้เลือกอยู่ 2 สี คือ ซาตินดำ (satin black) กับ ซาตินขาว (satin white) คู่ที่ผมได้รับมาทดสอบเป็นสีดำ
3 ทาง + ข้างละ 4 ไดเวอร์
บนแผงหน้าของ Imagine T65 แต่ละข้างมีไดเวอร์จำนวน 4 ตัว ติดตั้งกันอยู่ในแนวตั้ง เรียงจากบนลงล่างด้วยสูตร M–T–W–W
ไดเวอร์ตัวบนสุดเป็นมิดเร้นจ์ทรงกรวยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.25 นิ้ว ตัวกรวยไดอะแฟรมทำด้วยเส้นคาร์บอนไฟเบอร์ถักทอขึ้นรูป เคลือบสีดำ ยึดติดกับโครงด้วยขอบยาง ถูกกำหนดให้รับหน้าที่ในการสร้างความถี่เสียงตั้งแต่ 600Hz ขึ้นไปจนถึง 2000Hz
ไดเวอร์ที่อยู่ถัดลงมาจากตัวมิดเร้นจ์คือทวีตเตอร์ทรงโดมไททาเนี่ยมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ที่มีระบบระบายความร้อนของว้อยคอยซ์ด้วยการแช่ว้อยซ์คอยไว้ในแม่เหล็กเหลว ส่วนระบบส่งพลังควบคุมการขับเคลื่อนของโดมทวีตเตอร์เป็นแม่เหล็กนีโอไดเมี่ยม
ด้วยฐานะที่ผ่านการทดสอบลำโพงมาพอสมควร เมื่อเห็นองค์ประกอบรอบๆ ตัวทวีตเตอร์ของ Imagine T65 ตัวนี้แล้วก็พอจะเดาได้ว่าคนออกแบบลำโพงรุ่นนี้เขาให้ความสำคัญกับการ “จูนเสียง” ของทวีตเตอร์ตัวนี้มากเป็นพิเศษ อย่างแรกสังเกตได้ว่า ตัวโดมทวีตเตอร์ได้ถูกฝังให้ลึกลงไปอยู่ต่ำกว่าระนาบของแผงหน้าประมาณ 1 ซ.ม. ด้วยจุดประสงค์ทางด้าน time alignment คือหน่วงเวลาของเสียงแหลมจากทวีตเตอร์ให้เดินทางช้าลงนิดหนึ่งเพื่อให้ไปถึงหูของผู้ฟังในเวลาเดียวกับเสียงกลางจากมิดเร้นจ์และเสียงทุ้มจากวูฟเฟอร์ทั้งสองตัวนั่นเอง
ยังมีอีกจุดที่ผู้ออกแบบตั้งใจทำเพื่อจูนเสียงของทวีตเตอร์ นั่นคือ ใช้วัสดุที่มีลักษณะคล้ายปากฮอร์น หรือปากแตรตื้นๆ ล้อมรอบโดมทวีตเตอร์ ซึ่งจะมีผลในการควบคุมมุมกระจายเสียงแหลมให้แผ่ออกไปในทิศทางที่ต้องการ และใช้วัสดุที่มีรูปทรงที่ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษที่เรียกว่า Wave Guide ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าของโดมทวีตเตอร์เพื่อลดปริมาณคลื่นเสียงที่กระจายอกมาจากโดมทวีตเตอร์ในแนวตั้งฉากกับโดมทวีตเตอร์ให้น้อยลง เป็นการจัดความดังของเสียงแหลมจากทวีตเตอร์ให้มีความสมดุลกับปริมาณเสียงกลางจากมิดเร้นจ์และเสียงทุ้มจากวูฟเฟอร์ และเป็นดีไซน์ที่เจตนาเน้นการกระจายเสียงของเสียงแหลมในแนว off Axis (ยิงออกด้านข้าง) ที่เปิดกว้างออกไปมากขึ้น เมื่อเข้าไปเปิดสเปคฯ ดูในหัวข้อ “ความถี่ตอบสนอง” (frequency response) ของลำโพงคู่นี้ พบว่ามีตัวเลขสเปคฯ ที่สนับสนุนผลของการออกแบบในจุดนี้แสดงไว้อย่างชัดเจน ซึ่งบอกเลยว่า ในท้องตลาดทุกวันนี้ มีลำโพงในระดับราคาเดียวกับ Imagine T65 จำนวนน้อยมากที่จะให้ความสำคัญกับการกระจายเสียง “นอกแกน” (off Axis) มากเท่ากับลำโพง Imagine T65 คู่นี้.!
ทวีตเตอร์ของ Imagine T65 ตัวนี้ถูกกำหนดให้รับผิดชอบในการสร้างความถี่เสียงตั้งแต่ 2000Hz ขึ้นไปจนถึง 20000Hz เมื่อวัดในมุมกระจายเสียง on Axis โดยมีความผิดเพี้ยนอยู่ในเกณฑ์ +/-1, ½dB
Imagine T65 ใช้วูฟเฟอร์ที่มีขนาดไดอะแฟรม 6 นิ้ว จำนวน 2 ตัว ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความถี่เสียงตั้งแต่ 600Hz ลงไปถึง 37Hz ด้วยการติดตั้งวูฟเฟอร์ทั้งสองตัวไว้บนแผงหน้าโดยให้มีระยะห่างระหว่างวูฟเฟอร์ทั้งสองตัวอยู่ที่ 30 ซ.ม. (วัดจากกึ่งกลางของไดเวอร์ทั้งสองตัวเข้าหากัน) นอกจากนั้น ภายในตัวตู้ยังได้ถูกแบ่งพื้นที่แยกสำหรับวูฟเฟอร์ทั้งสองตัวออกจากกัน และที่ด้านหลังของตู้ลำโพงมีช่องยาวๆ อยู่ 2 ช่อง ที่เจาะไว้เพื่อระบายอากาศจากภายในตัวตู้ โดยแยกช่องบนสำหรับระบายอากาศจากตู้ของวูฟเฟอร์ตัวที่อยู่ด้านบน ส่วนช่องระบายอากาศอีกช่องที่อยู่ใกล้ด้านล่างสุดของตัวตู้เอาไว้ระบายอากาศจากตู้ของวูฟเฟอร์ตัวที่อยู่ด้านล่าง
ขั้วต่อสายลำโพง
ขั้วต่อสายลำโพงของ Imagine T65 ทำด้วยโลหะชุบทอง ให้มา 2 ชุด แยกสำหรับการเชื่อมต่อกับสายลำโพงแบบไบ–ไวร์ฯ หรือเชื่อมต่อกับแอมป์แบบไบ–แอมป์ก็ได้ ทางผู้ผลิตให้จั๊มเปอร์ที่ทำมาจากแท่งโลหะบางชุบทองมาด้วย ใช้สำหรับการเชื่อมกับสายลำโพงแบบซิงเกิ้ล ในภาพผมใช้สายจั๊มเปอร์ของ Nordost แทนแท่งโลหะที่แถมมากับตัวลำโพง พบว่าเสียงโดยรวมดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในย่านกลาง–แหลมเสียงจะเปิดและลอยตัวขึ้นมามากขึ้น ปลายแหลมมีประกายสดใสมากขึ้น ในขณะที่ย่านกลาง–ทุ้มได้รับมรรคผลมาจากสายลำโพงแบบซิงเกิ้ลของ Purist Audio Design รุ่น Aqueous Aureus ที่ผมใช้ร่วมกัน
ฐานล่าง
ส่วนฐานล่างที่ใช้ยกตัวตู้ลำโพงให้ลอยขึ้นมาจากพื้นเป็นแผ่นโลหะจำนวน 2 แผ่น ที่มีความกว้าง 4 ซ.ม. x ยาวประมาณ 28 ซ.ม. ติดตั้งอยู่ใต้ฐานล่างของตัวลำโพงด้วยน็อตสองตัว ที่ปลายของแผ่นโลหะทั้งสองด้านซึ่งยาวเลยขอบตู้ออกไปได้ถูกเจาะรูไว้ข้างละรู เพื่อให้สอดสกรูเกลียวของเดือยแหลมโลหะจำนวน 4 ตัว ต่อข้าง เพื่อใช้ยกตัวตู้ลำโพงให้ลอยขึ้นมาจากพื้น ซึ่งคุณสามารถใช้เดือยแหลมนี้เป็นตัวปรับระดับของตัวตู้ได้ด้วย น็อตเกลียวของเดือยแหลมแต่ละตัวมีความยาวมากพอต่อการหมุนปรับระดับได้เยอะ
นอกจากนั้น ทางผู้ผลิตยังแถมจานหลุมทรงเหรียญหนาๆ ที่ทำด้วยอะลูมิเนียมไว้ใช้รองปลายแหลมของเดือยแหลมมาให้ด้วย ถ้าพื้นห้องของคุณทำด้วยไม้ เหรียญรองเดือยแหลมนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้พื้นเป็นรอยได้
แต่ถ้าต้องการประโยชน์ช่วยป้องกันพื้นเป็นรอยพร้อมๆ กับอัพเกรดเสียงไปด้วย คุณก็สามารถซื้อหาจานรองเดือยแหลมที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษจากหลายๆ แบรนด์มาทดลองใช้ได้ ผมทดลองใช้จานรองของ Audio Bastion รุ่น X-Pad Plus II (REVIEW) มารองแทนเหรียญอะลูมิเนียมที่แถมมา ก็ได้เสียงที่แน่นมากขึ้น นิ่งมากขึ้น รายละเอียดลอยตัวขึ้นมาจากพื้นหลังมากขึ้น โดยรวมถือว่าดีขึ้นมากน่าพอใจกับการลงทุน
วิเคราะห์แม็ทชิ่ง
ผู้ผลิตลำโพงคู่นี้ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากต่อการนำมาใช้ประเมินในการแม็ทชิ่งกับแอมป์ เริ่มจาก ‘Input Power Recommended’ หรือกำลังขับที่แนะนำ (แถบสีเขียว) ซึ่งเริ่มจากต่ำสุดที่ 20W ขึ้นไปจนถึงระดับสูงสุดที่ 200W ต่อข้าง อ้างอิงกับอิมพีแดนซ์ปกติ (ความต้านทาน) ที่ 8 โอห์ม (แถบสีเหลือง) ซึ่งตัวเลขที่ 75% ของกำลังขับสูงสุดที่แนะนำไว้ก็คือ 200x75 หาร 100 เท่ากับ 150W ต่อข้าง ที่ 8 โอห์ม ก็ถือว่าไม่ได้โหดอะไรมาก พอจะหาแอมป์ที่มีกำลังขับ 150W – 200W ต่อข้างที่ 8 โอห์ม ได้ไม่ยาก ในท้องตลาดมีแอมป์ระดับกลางๆ ที่มีสเปคฯ แบบนี้ให้เลือกอยู่พอสมควร ทั้งในรูปของอินติเกรตแอมป์และปรี+เพาเวอร์ฯ
ความไวของลำโพงคู่นี้ระบุไว้ 2 ค่า (แถบสีแดง) ที่ได้จากการวัดในสองสภาวะ ค่าแรกคือ 88dB เป็นค่าที่วัดในห้องไร้เสียงสะท้อน ซึ่งอนุมานเทียบได้กับห้องทั่วไปที่มีสภาพอะคูสติกไปทางซับเสียงมากหน่อย ส่วนอีกค่าคือ 90dB ซึ่งเป็นค่าที่วัดในห้องรับแขกทั่วไปที่มีสภาพอะคูสติกค่อนไปทาง Live มากหน่อย โดยปกติแล้ว ถ้าเป็นห้องที่มีสภาพอะคูสติกไปทางซับเสียงก็จะกินกำลังขับของแอมป์มากกว่าห้องที่มีสภาพอะคูสติกไปทางก้องสะท้อน ซึ่งความไวระดับปานกลางจะอยู่ระหว่าง 88 – 90dB ตรงกับสเปคฯ ของ Imagaine T65 คู่นี้พอดี
เซ็ตอัพ
ลำโพงคู่นี้ใช้ไดเวอร์ขนาด 6.5 นิ้ว จำนวน 2 ตัว ทำงานในตู้เปิดที่แยกกันเด็ดขาด ช่วยกันสร้างความถี่ในย่านทุ้มตั้งแต่ 600Hz ลงไปจนถึง 19Hz (รวม bass extension ที่ออกไปทางท่อระบายเบสด้วย) ซึ่งถือว่าเป็นลำโพงขนาดกลางที่มีสเปคฯ โหดหินมาก.!
เนื่องจากความถี่ต่ำจะมีพลังงานมากกว่าความถี่สูง ในการเซ็ตอัพตำแหน่งลำโพงที่คำนึงถึง “ความสมดุล” ระหว่างความถี่เสียงในย่าน “ทุ้ม–กลาง–แหลม” ที่เท่าเทียมเสมอกัน จึงต้องพิจารณาที่ความสามารถในการถ่ายทอดความถี่ในย่านต่ำมาก่อนความถี่ในย่านอื่นๆ เสมอ เคยได้ยินประโยคนี้มั้ย “..ถ้าจัดการกับความถี่ต่ำได้ ความถี่ในย่านอื่นที่เหลือก็จะดีเอง!” ด้วยเหตุนี้ ตำแหน่งลำโพงที่ลงตัวในห้องหนึ่งๆ จึงต้องเป็นตำแหน่งที่ให้เสียงทุ้มที่ลงตัวมากที่สุด
ดูจากตัวเลขสเปคฯ Frequency Response ของ Imagine T65 คู่นี้แล้ว จะพบว่ามีจุดสังเกตอยู่ 4 – 5 จุดที่ทำให้รู้ว่า คุณพอล บาร์ตันแกให้ความสำคัญกับความถี่ต่ำมากเป็นพิเศษ เริ่มจาก
1. มีการใช้วูฟเฟอร์ 6.5 นิ้ว ถึง 2 ตัว ในการรับมือกับการสร้างเสียงทุ้มออกมา
2. มีการจัดวางตำแหน่งของวูฟเฟอร์ทั้งสองตัวในลักษณะที่ฉีกห่างจากกันอย่างมีนัยยะ แสดงให้เห็นว่ามีการคำนวนมาเป็นอย่างดี ไม่ได้จัดวางวูฟเฟอร์ตามตำแหน่งที่เคยเห็นในลำโพงอื่นๆ ทั่วไป
3. มีการแบ่งกั้นพื้นที่อากาศภายในตัวตู้แยกสำหรับวูฟเฟอร์ทั้งสองตัว
4. แต่ละตู้ของวูฟเฟอร์ทั้งสองตัวต่างก็มีท่อระบายอากาศที่แยกเด็ดขาดจากกัน
5. ดีไซน์ท่อระบายเบสที่มีลักษณะเป็นช่องแคบๆ แนวยาว เพื่อควบคุมการไหลเข้าออกของมวลอากาศภายในตัวตู้ ซึ่งส่งผลกับเสียงทุ้มโดยตรง (*ในลำโพงระดับอัลตร้าไฮเอ็นด์อย่าง Wilson Audio ก็ดีไซน์ช่องระบายอากาศลักษณะนี้!)
จากประสบการณ์ที่เคยทดสอบลำโพงที่มีขนาดตัวตู้ประมาณ Imagine T65 ตัวนี้ ในระดับราคาพอๆ กันนี้ โดยมากจะปรับจูนเสียงทุ้มมา 2 แบบ แบบแรกเน้นให้เสียงทุ้มมีลักษณะเด่นไปทางผ่อนปรน ทอดตัวลงลึก ปล่อยปลายเสียงให้แผ่กระจายตัวออกไปในแนวกว้าง พวกนี้จะไม่เด่นในแง่ของความกระแทกกระทั้นที่รุนแรงและให้ความกระชับแน่นของเสียงเบสได้ไม่ดีนัก ส่วนอีกแบบจะตรงข้ามไปเลย นั่นคือจะเน้นปริมาณและความหนักแน่นของเบสมากเป็นพิเศษ ซึ่งพวกนี้จะมีข้อด้อยตามมา คือพอเปิดดังมากๆ มักจะติดขุ่นและคุมปลายเสียงเบสไม่ค่อยอยู่ อื้ออึงได้ง่าย (damping สัญญาณทรานเชี้ยนต์ในย่านทุ้มได้ไม่ค่อยดี) ยากที่จะหาลำโพงในระดับราคานี้ที่พยายามดีไซน์เสียงทุ้มให้มี “ความเป็นกลาง” จริงๆ
สำหรับลำโพงแบบแรก ต้องแก้เกมด้วยการเซ็ตอัพตำแหน่งให้แม่นๆ และอาศัยการปรับอะตคูสติกเข้าช่วย ส่วนเรื่องแม็ทชิ่งไม่ค่อยยากเพราะลำโพงที่จูนเสียงเบสมาลักษณะผ่อนคลายจะไม่ค่อยต้องการกำลังขับของแอมป์เยอะ ความไวของลำโพงที่จูนมาแนวนี้มักจะค่อนไปทางสูง สวนทางกลับการแก้เกมสำหรับลำโพงที่จูนเสียงเบสมาแบบเน้นปริมาณและความหนักแน่นของเบส ซึ่งต้องอาศัยการแม็ทชิ่งเข้ามาช่วย เพราะลำโพงที่จูนเสียงทุ้มมาแนวนี้มักจะต้องการกำลังขับของแอมป์มากหน่อยและต้องการแอมป์ที่มีแด้มปิ้ง แฟ็คเตอร์สูงๆ ด้วยเพื่อช่วยหยุดกรวยของวูฟเฟอร์
หลังจากทดลองแม็ทชิ่ง+เซ็ตอัพ PSB Imagine T65 คู่นี้แล้ว ผมพบว่า คุณพอล บาร์ตัน กับทีมออกแบบของแกดูเหมือนจะพยายาม “ผ่าทางตัน” เพื่อนำพาลำโพงตั้งพื้นขนาดกลางคู่นี้ให้พุ่งทะลุแนวต้านทานของลำโพงระดับนี้ขึ้นไปสู่มาตรฐานที่สูงขึ้นไปอีกขั้น คือผมพบว่า Imagine T65 คู่นี้ให้ลักษณะของเสียงทุ้มที่เป็นไปในแนวทางแรกกับแนวทางที่สองผสมกันอยู่ในอัตราส่วน 60 : 40 (แนวทางแรก : แนวที่สอง) นั่นคือพยายามทำให้มันออกมากลางๆ เมื่อแม็ทชิ่ง+เซ็ตอัพจนลงตัวแล้ว ผมพบว่า ลำโพงคู่นี้ให้เสียงทุ้มออกมาได้ทั้งสองลักษณะ คือเมื่อเจอกับบางเพลงมันก็ให้เสียงทุ้มที่ทอดตัวลงลึก + แผ่หางเสียงเบสออกไปได้กว้างและปล่อยปลายเสียงทุ้มให้ค่อยๆ คลายตัวออกไป แต่พอเจอกับบางเพลงเสียงทุ้มของมันก็เปลี่ยนบุคลิกไปเป็นกระชับแน่น หนัก เร็ว และเก็บรวบปลายเสียงอย่างฉับไว ซึ่งแนวทางการตอบสนองต่อเสียงทุ้มแบบที่กล่าวมานี้ มันเป็นแนวทางเดียวกับลำโพงระดับไฮเอ็นด์ที่มีราคาสูงกว่าลำโพงคู่นี้อย่างน้อย 2-3 เท่าตัว ถึงจะได้เจอเสียงทุ้มที่สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกไปตามเพลงได้แบบนี้.!
Imagine T65 ให้พลังงานในย่านเสียงทุ้มออกมาเยอะมาก มากพอสำหรับการเซ็ตตำแหน่งให้ห่างจากผนังหลังออกมาได้มากถึง 1 ใน 3 ของความลึกของห้องโดยไม่ทำให้เสียงเบสบาง มิหนำซ้ำ ตรงตำแหน่งห่างผนังหลังที่ระดับ “1/3 x ความลึกของห้อง” นี้ยังทำให้ได้ผลลัพธ์ทางด้านสมดุลเสียง (Tonal Balance) และมิติ–เวทีเสียง (Sound Stage) ที่ดีมากด้วย เมื่อผมค่อยๆ จูนตำแหน่งของ Imagaine T65 จนได้จุดลงตัวตามชาร์ตในภาพข้างต้น ผมพบว่า ณ จุดนั้นคือจุดที่ Imagine T65 ถูกกำหนดมาให้แสดงศักยภาพของมันออกมาได้เต็มที่มากที่สุด ทุกคุณสมบัติของเสียงที่มันถ่ายทอดออกมาถูกยืดขยายออกไปจากสุดสเกล ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความถี่ตอบสนองที่แผ่ออกมาให้ได้ยินเต็มสเปคตรัม ตั้งแต่ปลายเสียงแหลมที่บางเบา ละเอียดเนียนเหมือนละอองเสียง เสียงกลางที่ลอยเด่น โปร่งกว้าง เนื้อมวลเข้มข้น ลงไปจนถึงเบสที่มาครบองค์ ทั้งหนัก แน่น และกระชับตึงตัว (ขับด้วยปรีแอมป์ NAT Audio ‘Transmitter HPS’ + เพาเวอร์แอมป์ QUAD ‘Artera Stereo’)
เนื่องจาก Imagine T65 ให้เสียงทุ้มที่ลงลึกและมีปริมาณที่หนาแน่น มีผลต่อระยะนั่งฟังของผม คือถ้าต้องการความถี่ที่สมดุลจากลำโพงคู่นี้ โดยเฉพาะในย่านทุ้มที่ลงลึกมากๆ ผมต้องนั่งห่างจากจุด sweet spot ที่เป็นจุด nearfield ออกมาประมาณ 2 ฟุตนิดๆ เข้าโซน mid-field ซึ่งแม้ว่าจะนั่งฟังไกลตัวลำโพงออกมามากหน่อย แต่มวลของความถี่ในย่านกลางและแหลมก็ยังคงมีความเข้มข้น หนาแน่น สมดุลลงตัวกับความถี่ต่ำพอดีๆ และได้เวทีเสียงที่เปิดกว้างมาก (*เป็นผลมาจากการออกแบบให้มีมุมกระจายเสียงในแนว Off Axis ที่มากเป็นพิเศษนั่นเอง)
ผลการทดลองแม็ทชิ่ง
+ ผลทางเสียงของ PSB Imagaine T65
ในการทดลองแม็ทชิ่ง+เซ็ตอัพ+ปรับจูนเพื่อค้นหาบุคลิกเสียงที่แท้จริงของลำโพงคู่นี้ ผมมีโอกาสทดสอบด้วยแอมปลิฟายหลายตัวด้วยกัน ในจำนวนนั้น มีอยู่ 2-3 ตัวที่ผมพบว่ามันแม็ทชิ่งกับลำโพงคู่นี้อยู่ในระดับที่สามารถผลักดันเสียงของ Imagine T65 คู่นี้ออกมาได้อย่างหมดจด น่าพอใจ
ตัวแรกคืออินติเกรตแอมป์ของ Arcam รุ่น Radia A5 ที่ให้กำลังขับแค่ข้างละ 50W สูงกว่ากำลังขับต่ำสุดที่ลำโพงคู่นี้แนะนำไว้แค่สามสิบวัตต์ แต่สามารถขับดันเสียงออกมาจากลำโพงคู่นี้ได้อย่างน่าทึ่ง ถ้าเอาราคากับสมรรถนะของแอมป์ตัวนี้มาเทียบกับเสียงที่ได้อออกมาก็ต้องยอมรับว่า “เกินตัว” ไปมาก.! ซึ่งผลจากการทดลองแม็ทชิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า เนื้อแท้ของ Imagine T65 คู่นี้ก็คือ “ขับง่าย–ไม่กินกำลังขับแอมป์มาก”
ตัวที่สองเป็นอินติเกรตแอมป์หลอดของ NAT Audio รุ่น Single HPS (REVIEW) ซึ่งเป็นแอมป์หลอดซิงเกิ้ลเอ็นด์ที่ให้กำลังขับข้างละ 30W ที่ 8/4 โอห์ม แต่ใช้เอ๊าต์พุตทรานสฟอเมอร์ที่ออกแบบมาพิเศษมากๆ จึงให้กำลังขับสูงกว่าตัวเลข สามารถขับ Imagine T65 คู่นี้ออกมาในระดับที่น่าตื่นตะลึง.! ทุกความถี่แสดงตัวออกมาได้อย่างดงาม แหลมทอดไปได้ไกล ทั้งส่วนที่เป็นตัวเสียงและฮาร์มอนิก ไปจนถึงระดับแอมเบี้ยนต์ที่ทำให้เสียงโดยรวมมีความอิ่มและฉ่ำ กลางหวานและพลิ้วสะอาดแต่ไม่เฉื่อย มูพเม้นต์ของเสียงกลางมีความต่อเนื่องที่ดีมาก เสียงร้องของนักร้องหญิงลอยเด่น ให้รายละเอียดลึกลงไปถึงระดับ inner detail เสียงเผยอริมฝีปาก, เสียงลมรอดไรฟัน, เสียงสูดลมหายใจ รายละเอียดเหล่านี้พรั่งพรูออกมามากซะจนทำให้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนกำลังฟังคนจริงๆ ร้องเพลงมากกว่าฟังจากชุดเครื่องเสียง ส่วนเสียงทุ้มก็มาครบทั้งสองบุคลิก คือทั้งกระชับแน่นและโอนอ่อนผ่อนคลายไปตามบุคลิกของเพลง นับเป็นคู่แอมป์+ลำโพงที่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัวมากคู่หนึ่ง ผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าพอใจมาก.! (*ราคาของแอมป์สูงกว่าราคาของลำโพงประมาณ 3 – 4 เท่า.!!)
LEAK รุ่น Stereo 230 ก็เป็นอินติเกรตแอมป์อีกตัวหนึ่งที่จับคู่กับ Imagine T65 คู่นี้แล้วได้ผลลัพธ์ทางเสียงออกมาในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ด้วยกำลังขับที่ระดับ 115W ต่อข้างของ Stereo 230 ถือว่ามากพอในการผลักดันเสียงในย่านกลางกับแหลมให้หลุดลอยออกไปจากตัวตู้ของ Imagine T65 ได้อย่างน่าพอใจ ทำให้มองเห็นว่า ลำโพงตั้งพื้นระดับกลางคู่นี้ก็สามารถฉายภาพของเวทีเสียงที่โอ่โถงและเปิดกระจ่างออกไปได้ดีมากไม่แพ้ลำโพงขนาดเล็กชั้นดีเลย และเมื่อได้เสียงในย่านทุ้มที่แอมป์ดันออกมาเสริมส่วนฐานให้แน่นขึ้น จึงมีผลให้ได้ภาพรวมของเสียงที่น่าพอใจมาก แม้ว่าในส่วนของเนื้อเสียงจะไม่ถึงกับอิ่มและฉ่ำเท่ากับตอนขับด้วยอินติเกรตฯ หลอด Single HPS แต่เมื่อเทียบกับระดับราคาแล้ว (Single HPS มีราคาสูงกว่า Stereo 230 ประมาณ 3 – 4 เท่า) ก็ต้องบอกว่าคุ้ม.!! เหตุผลก็เพราะ Imagine T65 มีความไวสูงถึง 90dB จึงขับไม่ยาก ทำให้ได้เสียงที่แผ่ออกมาเต็มห้องแบบไม่ต้องลุ้นมาก ไม่ต้องใช้ซุปเปอร์แอมป์ก็ได้เสียออกมาหลุดกระจายเต็มห้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอมป์โซลิดหรือหลอดไปได้หมด ซึ่งลักษณะของเสียงที่แผ่ออกมาเต็มห้องแบบนี้แหละที่ทำให้ฟังดี ไดนามิกก็สวิงได้กว้าง ไม่รู้สึกอั้น แค่ว่าถ้าเป็นแอมป์หลอด อาจจะต้องมีราคาสูงหน่อยถ้าคุณต้องการเวทีเสียสวยๆ กับเสียงทุ้มของลำโพงคู่นี้ให้ออกมาดีมากๆ
ชุดแอมป์ที่ขับ Imagine T65 แล้วให้ผลลัพธ์ทางเสียงออกมาเป็นค่าเฉลี่ยที่ทำให้ผมรู้สึกพอใจมากที่สุด เรียกว่าแม็ทชิ่งลงตัวมากที่สุดในการทดสอบครั้งนี้ก็คือ ปรีแอมป์ NAT Audio รุ่น Magnetic จับคู่กับเพาเวอร์แอมป์ QUAD รุ่น Artera Stereo ซึ่งคู่นี้เป็นการจับมือร่วมกันของปรีหลอด+เพาเวอร์แอมป์โซลิดสเตท เมื่อผสมกับโทนเสียงของลำโพง PSB Imagine T65 คู่นี้แล้ว เสียงที่ออกมาโดยรวมให้ค่าเฉลี่ยที่น่าพอใจมากที่สุด มีคุณสมบัติของความเป็นมอนิเตอร์สูง เมื่อฟังอัลบั้มเพลงของสังกัดไฮเอ็นด์ที่ใช้การบันทึกสดจากการบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีอะคูสติกโดยไม่ผ่านคอนโซล และไม่ผ่านอิเล็กทรอนิคที่ใช้ปรับแต่งเสียงใดๆ (Limiter, EQ) พบว่า Magnetic + Artera Stereo + Imagine T65 ชุดนี้สามารถถ่ายทอดโทนเสียงที่มีความสมจริงเป็นธรรมชาติออกมาได้สูงในระดับที่ฟังแล้วเชื่อว่ากำลังฟังเสียงร้องของคนจริงๆ และกำลังฟังเสียงของเครื่องดนตรีจริงที่กำลังถูกกระทำ (ดีด–สี–ตี–เป่า) จากนักดนตรีจริงๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์ชั้นสูงของการฟังที่ต้องอาศัยความสามารถของอุปกรณ์เครื่องเสียงแต่ละชิ้นในซิสเต็มที่ดีพอเป็นสารตั้งต้น ก่อนจะมาถึงขั้นตอนการเซ็ตอัพและปรับจูน นี่ก็เป็นการการันตีได้ว่าลำโพง PSB Imagine T65 มีคุณสมบัติของความเป็นมอนิเตอร์อยู่ในตัว ซึ่งพร้อมจะแสดงตัวออกมาให้คุณได้ยินเมื่อถูกจับคู่กับแอมป์ที่แม็ทชิ่งกันลงตัว และถูกเซ็ตอัพตำแหน่งที่ลงตัวภายในห้องฟังของคุณ
สรุป
เสียงของ Imagine T65 ทำให้ผมนึกถึงเสียงของ Synchrony T600 ที่ผมทำ REVIEW ไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2566 ซึ่งจริงๆ แล้ว Synchrony T600 มีศักดิ์เป็นรุ่นพี่ของ Imagine T65 นั่นเอง มันเกิดขึ้นมาจากมันสมองของคนออกแบบคนเดียวกัน ใช้หลักการจัดวางไดเวอร์สูตรเดียวกัน ซึ่งความแตกต่างมีอยู่แค่ว่า รุ่น Synchrony T600 จัดเต็มคาราเบลมากกว่าเพราะเป็นรุ่นใหญ่สุดของซีรี่ย์ใหญ่สุดในขณะนี้ ส่วน Imagine T65 คู่นี้ถูกทำออกมาให้กับคนที่เคยฟังเสียงของ Synchrony T600 แล้วชอบแต่ติดขัดที่งบประมาณ คุณสามารถถอยลงมาที่ Imagine T65 ได้ในราคาที่ต่ำลงมาแค่ประมาณ 1 ใน 3 ของรุ่น Synchrony T600 แต่ทางด้านประสิทธิภาพของเสียงที่ได้ออกมา “ไม่ได้” ห่างกันมากเท่ากับราคาที่ห่างกัน
***HIGHLY RECOMMENDED!***
********************
ราคา : 79,900 บาท / คู่ (โปรโมชั่นจากราคาเต็ม 98,600 บาท / คู่)
********************
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บ. โคไน้ซ์ อีเล็คโทรนิค
โทร. 02-276-9644
********************
สนใจสั่งซื้อได้ที่