รีวิวเครื่องเสียง KEF รุ่น Reference 1 Meta ลำโพง 3 ทางวางบนขาตั้ง

เถียงไม่ได้เลยว่า ดีไซน์ของรูปร่างหน้าตามีผลต่อการตัดสินใจซื้อไม่น้อยไปกว่า คุณภาพเสียงเผลอๆ นะ ถ้าผู้ผลิตตั้งใจจะขายลำโพงของพวกเขาไปให้กับคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักเล่นเครื่องเสียง มีความเป็นไปได้สูงเลยที่ผู้ผลิตเหล่านั้นจะให้ความสำคัญกับ ดีไซน์ของรูปร่างหน้าตาเหนือกว่าคุณภาพเสียงซะอีก..!!

ลองสำรวจจากตลาดลำโพงไร้สาย หรือลำโพง Bluetooth ดูก็ได้ ช่วง 3-4 ปีที่แล้วถือว่าเป็นช่วงบูมของลำโพงไร้สายที่เชื่อมต่อสัญญาณผ่านคลื่นบลูทูธ เพราะมีผู้ผลิตปล่อยสินค้าออกมาถล่มตลาดกันหลากหลายแบรนด์ หลายระดับราคา เรียกว่ามากซะจนนับรุ่นไม่หมด ซึ่งในยุคนั้น ถ้าเป็นตลาดล่างที่มีราคาไม่สูงมาก ส่วนใหญ่จะแข่งขันกันที่ ดีไซน์กับ ราคาหนักหน่วงกว่า คุณภาพเสียงส่วนตลาดที่เน้น คุณภาพเสียงมากหน่อยก็จะเป็นรุ่นที่อยู่ในระดับราคาสูงๆ ซึ่งมีแข่งขันกันอยู่ไม่มากราย

ปัจจุบันนี้ ตลาดลำโพง Bluetooth ไร้สายแบบตัวเดียวจบซบเซาลงมาก เพราะเริ่มมีลำโพงไร้สายแบบสเตริโอเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด ซึ่งลำโพงไร้สายแบบตัวเดียวจบส่วนใหญ่ที่ยังคงเหลือรอดอยู่ในตลาดทุกวันนี้ก็ต้องมีดีทั้งทางด้านดีไซน์และคุณภาพเสียงถึงจะพอมีลูกค้าหยิบฉวยไปใช้งาน ประเภทที่หน้าตาสวยแต่เสียงแย่ เริ่มไม่ขยับกันแล้ว

KEF กับการควบรวมกึ่งแบ่งแยก..

KEF เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ผู้ผลิตลำโพงที่มีอดีตอันยาวนาน เติบโตมากับตลาดลำโพงในยุคที่เน้นคุณภาพเสียงมาอย่างโชกโชน ปัจจุบัน KEF เป็นแบรนด์ที่ยืนคร่อมอยู่ระหว่างตลาดของนักนิยมเครื่องเสียงที่เป็นนักเล่นฯ กับตลาดคนฟังเพลงทั่วไป พวกเขากำลังพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ซื้อในตลาดทั้งสอง ด้วยการเอาคุณภาพเสียงแบบดั้งเดิมไปผสมกับดีไซน์ที่ทันสมัยมาออกแบบและผลิตลำโพงเพื่อนำเสนอให้กับนักเล่นเครื่องเสียงยุคใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาในตลาดเครื่องเสียง ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็นำเอาดีไซน์ที่แปลกใหม่ เตะตาคนทั่วไปมาใส่เสียงที่ดีกว่ามาตรฐานที่คนทั่วไปพบเจอกัน เพื่อทำให้สินค้าของพวกเขามีจุดขายที่ดึงดูดความสนใจของคนทั่วไปได้มากกว่าสินค้าของแบรนด์จากผู้ผลิตที่เน้นราคาถูกเป็นหลัก

KEF ประสบความสำเร็จกับการทำลำโพงไร้สายที่เน้นคุณภาพเสียงอย่างพวกตระกูล LS ทั้งหลาย เช่น LSX, LS50 และ LS60 ซึ่งทำยอดการจำหน่ายให้กับคนทั่วไปได้จำนวนมหาศาล ปีที่ผ่านมา KEF เริ่มเจาะเข้าสู่ตลาดของคนที่เน้นคุณภาพเสียงยุคใหม่ด้วยการปล่อยลำโพงพาสซีฟ อนุกรม REFERENCE Series ออกมา โดยพ่วงเทคโนโลยี MAT (Metamaterial Absorption Technology) ที่พวกเขาเพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่เข้ามาเป็นจุดขายด้วย

ลำโพงในอนุกรม REFERENCE Series ที่มีอยู่ทั้งหมดรวมรุ่นที่เกี่ยวข้องกับงานโฮมเธียเตอร์และงานติดตั้งระบบเสียงก็คือ 8 รุ่น เริ่มตั้งแต่รุ่น REFERENCE 1 Meta รุ่นเล็กสุด, REFERENCE 3 Meta รุ่นกลาง และ REFERENCE 5 Meta รุ่นใหญ่สุด (ภาพด้านบน) นอกจากนั้นก็เป็นลำโพงเซ็นเตอร์รุ่น REFERENCE 2 และ REFERENCE 4 ที่ใช้ในการเซ็ตอัพระบบเสียงเซอร์ราวนด์ ร่วมกับลำโพงซับวูฟเฟอร์รุ่น REFERENCE 8b ส่วนลำโพงที่เน้นงานติดตั้งระบบ ที่เรียกว่า Ci (Custom Installation) มีอยู่ 2 รุ่นคือ Ci5160REFM-THX กับรุ่น Ci3160REFM-THX (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่ )

REFERENCE 1 Meta
ลำโพงไฮเอ็นด์ยุคใหม่..!!

KEF ตั้งใจทำลำโพงซีรี่ย์ REFERENCE ออกมาเพื่อสืบสานตำนานที่ทำมาตั้งแต่รุ่น REF 104aB ที่ออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1973 ก่อนจะมาเป็นรุ่น REF 105.2, REF 107, REF 109, REF 207/2 จนมาถึง REF 5 ในปัจจุบัน ซึ่งในซีรี่ย์ REFERENCE เวอร์ชั่นปัจจุบันได้ชูเทคโนโลยี Uni-Q กับ Metamaterial เป็นจุดขาย

คุณสามารถใช้รุ่น REFERENCE 5 Meta, REFERENCE 3 Meta หรือ REFERENCE 1 Meta สำหรับการฟังเพลงด้วยระบบเสียงสเตริโอ 2 แชนเนลได้ ซึ่งในจำนวน 3 รุ่นนั้น มีแค่รุ่น REFERENCE 1 Meta รุ่นเดียว (ต่อไปในรีวิวนี้ผมจะขอเรียกชื่อสั้นๆ ว่า REF 1 Meta) ที่เป็นลำโพงแบบวางบนขาตั้ง ส่วน REFERENCE 3 Meta กับ REFERENCE 5 Meta เป็นแบบตั้งพื้น

REF 1 Meta ที่ผมกำลังทดสอบนี้เป็นลำโพง 3 ทาง ระบบตู้เป็นแบบเบสรีเฟล็กซ์ โดยเจาะช่องระบายอากาศไว้ที่แผงหลังของตัวตู้ 1 ท่อ ลักษณะของตัวตู้อยู่ในสัณฐานสี่เหลี่ยมทรงสูง แผงหน้าแคบกว่าความลึกและความสูง ไดเวอร์ทั้งสามตัวติดตั้งอยู่บนแผงหน้าทั้งหมด โดยจัดวางทวีตเตอร์และมิดเร้นจ์รวมกันอยู่ด้านบน ส่วนวูฟเฟอร์ถูกจัดวางอยู่ที่ด้านล่างแนวเดียวกัน

ไดเวอร์ที่ใช้ในรุ่น REF 1 Meta

ทวีตเตอร์โดมอะลูมิเนียมขนาด 1 นิ้ว ถูกฝังอยู่ในใจกลางของตัวมิดเร้นจ์กรวยอะลูมิเนียมขนาด 5 นิ้ว ตามรูปแบบของเทคนิดพิเศษที่ KEF ออกแบบไว้ เรียกว่า Uni-Q ซึ่งไดเวอร์ Uni-Q ที่ใช้ในซีรี่ย์ REFERENCE นี้ผ่านการปรับปรุงมาถึง เจนเนอเรชั่นที่ 12 แล้ว

ภาพด้านบนนี้คือลักษณะโครงสร้างภายในของไดเวอร์ Uni-Q ที่ใช้อยู่ในลำโพงรุ่นนี้และรุ่นอื่นๆ จะเห็นว่า ภายในตัวไดเวอร์มีชิ้นส่วนที่ประกอบกันอยู่หลายชิ้นมาก โครงสร้างมีลักษณะที่ซับซ้อนแต่ทั้งหมดนั้นก็เพื่อผลทางด้านประสิทธิภาพและความแม่นยำในการสร้างความถี่เสียงในย่านกลางต่ำขึ้นไปถึงเสียงแหลมทั้งหมด

ในรุ่นดัง LS50 Meta ซึ่งอยู่ในซีรี่ย์ LS จะมีแต่ไดเวอร์ Uni-Q ขนาดเท่ากันแค่ตัวเดียวที่ทำหน้าที่สร้างความถี่เสียงตั้งแต่ 47Hz ขึ้นไปจนถึง 45kHz ในขณะที่รุ่น REF 1 Meta ถูกออกแบบให้ใช้ไดเวอร์ Uni-Q ทำงานร่วมกับวูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว อีกหนึ่งตัวในการสร้างความถี่เสียงตั้งแต่ 37Hz ขึ้นไปจนถึง 45kHz (+/-6dB)

วูฟเฟอร์ตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สร้างความถี่ต่ำที่กลมกลืนไปกับเสียงในย่านกลางและแหลมที่สร้างขึ้นโดยไดเวอร์ Uni-Q เจนเนอเรชั่นที่ 12 โดยเฉพาะ ซึ่งประจักษ์พยานอย่างหนึ่งที่แสดงออกมาให้เห็นถึงความพยายามข้างต้นอย่างชัดเจนก็คือวัสดุที่ใช้ทำไดอะแฟรมของตัววูฟเฟอร์ที่เป็นชนิดเดียวกันกับวัสดุที่ใช้ทำไดอะแฟรมของตัวมิดเร้นจ์และทวีตเตอร์ นั่นคือ อะลูมินียมซึ่งนั่นทำให้แน่ใจได้อย่างหนึ่งว่า หัวโน๊ตหลักกับโอเวอร์โทนของเสียงตั้งแต่ทุ้มขึ้นไปจนถึงแหลมจะมีความกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันไปตลอดทั้งย่านเสียงที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยไดเวอร์ของลำโพงคู่นี้

ไม่ใช่แค่ไดเวอร์เท่านั้น วิศวกรของ KEF คิดกันเยอะในการที่จะทำให้เสียงทุ้มที่สร้างขึ้นโดยวูฟเฟอร์ตัวนี้มีคุณภาพที่ดีและกลมกลืนกับกลางแหลมของไดเวอร์ Uni-Q ให้มากที่สุด นอกจากตัวไดเวอร์เองแล้ว ตัวตู้ก็มีส่วนสัมพันธ์กับการทำงานของไดเวอร์มาก วิศวกรของ KEF รู้ดีว่าการไหลเวียนของมวลอากาศในตัวตู้จะส่งผลกับการขยับตัวของไดอะแฟรมของตัววูฟเฟอร์ ต้องจัดการให้อากาศภายในตู้มีการไหลเวียนเข้าออกที่ดี สอดคล้องกับการขยับตัวเดินหน้า (อากาศไหลเข้า), ถอยหลัง (ดันอากาศไหลออก) ของไดอะแฟรมของตัววูฟเฟอร์ให้มากที่สุด

Flexible Port Technology
ระบบท่อระบายอากาศที่ให้ความยืดหยุ่นสูงในการไฟน์จูน

นักออกแบบลำโพงที่มีความเข้าใจโลกความเป็นจริงจะสะท้อนความเข้าใจของพวกเขาออกมาทางผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเข็นมันออกมานั่นเอง ระบบท่อระบายอากาศของ REF 1 Meta คือหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนถึงความเข้าใจที่ว่า เสียงที่ดีที่สุดของลำโพงคู่หนึ่งในแต่ละห้องที่แตกต่างกัน ควรจะต้องมี อะไรบางอย่าง” เป็นเครื่องมือที่สามารถปรับจูนได้บนลำโพงคู่นั้น เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลำโพงคู่นั้นในบางแง่ที่จะส่งผลให้ลำโพงคู่นั้นทำงานร่วมกับสภาพอะคูสติกภายในห้องแต่ละห้องที่แตกต่างกันให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดในทุกๆ ห้อง..!!!

คำว่า ‘Flexible Portที่วิศวกรของ KEF เอามาตั้งเป็นชื่อของเทคนิคพิเศษที่พวกเขาออกแบบไว้ให้ REF 1 Meta ใช้เป็นเครื่องมือในการปรับจูนตัวเองเข้าหับสภาพห้องแบบต่างๆ มีความหมายถึงท่อระบายอากาศที่สามารถปรับเปลี่ยน ขนาดของท่อได้นั่นเอง

พวกเขาออกแบบปากท่อด้านนอกที่มีกลไกหมุนถอดออกมาได้ เพื่อให้ผู้ใช้สอดท่อระบายอากาศที่ทำด้วยโฟมนิ่มเข้าไปในปลอกพีวีซีที่ทำหน้าที่รองรับท่อโฟมอยู่ภายใน

ผู้ผลิตให้ท่อโฟมนิ่มมา 2 ท่อ ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากัน แต่มีความยาวของท่อต่างกัน ในสเปคฯ ของลำโพง REF 1 Meta ระบุว่า เมื่อใส่ท่อสั้น (สีเทา/ซ้าย) ลำโพงจะสร้างความถี่ต่ำลงไปถึง 40Hz ในขณะที่ใส่ท่อยาว (สีดำ/ขวา) จะลงไปได้ลึกกว่าคือถึง 37Hz โดยที่ความถี่สูงสุดเท่ากันคือไปถึง 45kHz

การเปลี่ยนท่อระบายอากาศทำได้ไม่ยาก แต่ตอนสอดท่อโฟมนิ่มเข้าไปในโพรงพีวีซีด้านในต้องดันท่อโฟมนิ่มให้เข้าไปลึกๆ มิฉนั้นจะปิดฝาท่อไม่ได้ และต้องดันท่อโฟมนิ่มให้ลงไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกันทั้งสองข้างเพื่อให้ได้เสียงทุ้มออกมาเหมือนกัน ผมลองแกล้งดันลงไปไม่เท่ากัน ต่างกันนิดหน่อยแต่ก็ยอมรับว่าฟังความแตกต่างไม่ออก อย่างไรก็ดี ดันลงไปให้ลึกเท่าๆ กันไว้ดีกว่า

ขั้วต่อสายลำโพงก็ไม่ธรรมดา.!

REF 1 Meta ให้ขั้วต่อสายลำโพงแยก 2 ชุด สำหรับไดเวอร์ Uni-Q กับวูฟเฟอร์ ทำให้คุณสามารถใช้สายลำโพงที่แยกสองชุด หรือสายลำโพงไบไวร์ฯ กับลำโพงคู่นี้ได้ หรือจะใช้วิธีขับด้วยแอมป์ 2 ชุด แบบที่เรียกว่าไบแอมป์ก็ได้เหมือนกัน แต่คุณจะไม่เห็นจั๊มเปอร์โลหะพ่วงอยู่ที่ขั้วต่อสายลำโพงเหมือนลำโพงคู่อื่นๆ ที่ให้ขั้วต่อสายลำโพงสองชุด เอ๊ะ.. คุณอาจจะสงสัยว่า แล้วถ้าคุณต้องการใช้สายลำโพงแบบซิงเกิ้ลแค่คู่เดียวเชื่อมต่อระหว่างแอมป์กับลำโพงคู่นี้จะต้องทำยังไง.?

ไม่ต้องทำอะไรมาก.? แค่หมุนลูกบิดที่ลูกศรชี้สีแดงกับลูกบิดที่ลูกศรชี้สีฟ้าทั้งสองปุ่มนี้ไปทางขวามือ (ตามเข็มนาฬิกา) จนสุด.. แค่นี้เอง ซึ่งวิศวกรของ KEF ใช้ระบบกลไกในการเชื่อมโยงสัญญาณระหว่างขั้วต่อชุดล่างกับชุดบนเข้าด้วยกัน ถ้าคุณต้องการใช้สายลำโพงแบบซิงเกิ้ลไวร์เชื่อมต่อระหว่าง REF 1 Meta กับแอมป์ของคุณ ให้คุณหมุนลูกบิดทั้งสองนี้ไปทางขวาจนสุด กลไกที่อยู่ในตัวลำโพงจะทำการเชื่อมต่อขั้วทั้งสองชุดเข้าด้วยกัน หลังจากนั้น ไม่ว่าคุณจะเสียบสายลำโพงเข้าที่ขั้วต่อชุดบนหรือชุดล่าง เสียงก็จะออกที่ลำโพงทั้งหมดเหมือนกัน แต่ถ้าคุณต้องการใช้สายลำโพงแบบไบไวร์ฯ ที่แยกขั้วต่อเป็นสองชุด หรือต้องการเชื่อมต่อ REF 1 Meta กับแอมป์ 2 ชุดในลักษณะไบแอมป์ ให้หมุนลูกบิดไปทางซ้าย (ทวนเข็ม) เพื่อปลดการเชื่อมต่อระหว่างขั้วต่อทั้งสองชุดออกจากกัน นับว่าเป็นระบบจั๊มเปอร์ที่ล้ำยุคมาก..!! ใช้งานได้ผลดีและไม่ต้องกลัวจั๊มเปอร์หาย

แม็ทชิ่ง

ดูจากสเปคฯ ของ REF 1 Meta ที่แจ้งไว้ในเว็บไซต์ พอมีตัวเลขที่เอามาประเมินในการแม็ทชิ่งอยู่ 3 ตัวจากภาพด้านบน คือ (1) ช่วงกำลังขับที่แนะนำ, (2) อิมพีแดนซ์ และ (3) ความไว ซึ่งพิจารณาจากสเปคฯ สองตัวแรกแล้วก็รู้สึกเบาใจ เพราะตัวเลขกำลังขับที่ผู้ผลิตลำโพงคู่นี้แนะนำไว้แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่สูงถึง 200W ก็จริง แต่อ้างอิงที่อิมพีแดนซ์ 4 โอห์ม ดังนั้น ถ้าคำนวนย้อนกลับไปที่อิมพีแดนซ์ 8 โอห์ม ก็น่าจะได้ตัวเลขของกำลังขับอยู่ที่ 100W ที่ 8 โอห์ม ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าโหดมาก

แต่ตัวเลขความไวที่ระดับ 85dB นี่ซิค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะจัดอยู่ในเกณฑ์ของลำโพง ความไวต่ำและต่ำกว่า 88dB ที่เป็นระดับความไวปานกลางลงมาถึง 3dB นี่ถือว่าเยอะ ซึ่งโดยหลักการแล้ว แอมป์ที่ใช้ขับลำโพงที่มีความไวต่ำๆ แบบนี้แนวโน้มว่าต้องเป็นแอมป์ที่มีกำลังขับสูงๆ ถึงจะดี

ในห้องฟังขณะนั้นผมมีแอมป์อยู่ 2 ตัวที่ดูแล้วมีสมรรถนะทางเทคนิคที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับ REF 1 Meta คู่นี้ ตัวแรกเป็นเพาเวอร์แอมป์โซลิดสเตทแบรนด์ Usher Audio รุ่น R-1.5 สเปคฯ ตามกรอบข้างบน ส่วนอีกตัวเป็นอินติเกรตแอมป์ของ Accuphase รุ่น E-4000 ที่ผมเพิ่งจะทำรีวิวไป (REVIEW) ส่วนสเปคฯ สำคัญๆ ก็อยู่ในกรอบด้านบน

ผมทดลองใช้ Usher Audio R-1.5 ขับ REF 1 Meta ดูก่อน โดยใช้ปรีแอมป์ Denafrips รุ่น Athena จับคู่กับ R-1.5 ในขณะที่ชุด source ต้นทางเป็น Roon nucleus+ ทำหน้าที่เล่นไฟล์เพลงจาก NAS แล้วส่งให้ Rockna รุ่น Wavedream DAC ทำหน้าที่แปลงเป็นสัญญาณอะนาลอกก่อนส่งให้ปรีฯ

หลังจากฟังเก็บข้อมูลจากการขับด้วยเพาเวอร์แอมป์ Usher Audio R-1.5 ไปแล้ว ผมก็เปลี่ยนมาใช้อินติเกรตแอมป์ Accuphase E-4000 เข้าไปแทนชุดปรี+เพาเวอร์ฯ นั้น ส่วนแหล่งต้นทางสัญญาณก็ยังใช้ชุดเดิม Roon nucleus+ กับ Rockna Wavedream DAC

เซ็ตอัพ + ปรับจูน

REF 1 Meta เป็นลำโพงที่เซ็ตอัพสนุกมาก.! ใครที่ชอบขยับลำโพงเพื่อค้นหาเสียงที่ถูกใจน่าจะแฮ้ปปี้กับการใช้เวลาขลุกอยู่กับลำโพงคู่นี้มากเป็นพิเศษ มันเป็นลำโพงที่ตอบสนองกับแนวเพลงได้กว้างมากที่สุดคู่หนึ่งที่ผมเคยทดสอบมา กับลำโพงส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ดีไซน์ไดเวอร์เสียงแหลมเข้าไปฝังอยู่ในมิดเร้นจ์แบบนี้ ผมต้องเสียเวลาขยับหาตำแหน่งของลำโพงซ้าย/ขวาที่ทำให้ความถี่ที่ทวีตเตอร์และมิดเร้นจ์สร้างออกมามี โฟกัสที่ลงตัวมากที่สุด บางตำแหน่งตัวทวีตเตอร์ได้โฟกัสแต่มิดเร้นจ์ไม่ได้โฟกัส ต้องค่อยๆ ขยับทีละนิดเพื่อหาจุดเฉลี่ยที่ลงตัว ซึ่งไดเวอร์ Uni-Q ของ REF 1 Meta จัดวางทวีตเตอร์กับมิดเร้นจ์ไว้ในตำแหน่งที่มี จุดกำเนิดเดียวกันเป๊ะ การหาโฟกัสระหว่างซ้าย/ขวาจึงทำได้ง่ายกว่าลำโพงที่วางทวีตเตอร์กับมิดเร้นจ์ไว้คนละตำแหน่งมาก

ขณะเซ็ตอัพตำแหน่งลำโพงทั้งสองข้าง สิ่งที่ต้องให้ความสนใจกลับกลายเป็นช่วงรอยต่อระหว่างไดเวอร์ Uni-Q กับตัววูฟเฟอร์ คือช่วงความถี่บริเวณรอบๆ 450Hz (จุดตัดความถี่ระหว่างมิดเร้นจ์ของตัว Uni-Q กับวูฟเฟอร์อยู่ที่ 450Hz) คือประมาณ 250Hz ขึ้นไปถึง 900Hz

จุดตัดความถี่ระหว่างมิดเร้นจ์ของไดเวอร์ Uni-Q กับวูฟเฟอร์อยู่ที่ 450Hz (ประมาณเส้นสีขาวในภาพด้านบน) ส่วนแถบสีแดงคือส่วนที่ความถี่จากทั้งสองไดเวอร์ลาดเข้าหากัน ซึ่งจะเห็นว่า ความถี่ตรงจุดตัด (เส้นสีขาว) นั้นตรงกับเสียงของเครื่องดนตรีส่วนใหญ่ รวมถึงเสียงร้องของนักร้องชายและหญิงด้วย ดังนั้น การขยับลำโพงคู่นี้เพื่อจูนหาโฟกัสของเสียง สามารถใช้เสียงของเครื่องดนตรีประเภทไหนก็ได้ที่คุณคุ้นเคยที่สุด หรือจะใช้เสียงร้องก็ได้ ยกเว้นเสียงทูบ้ากับดับเบิ้ลเบส

อีกปัจจัยที่ส่งผลกับเสียงมากก็คือ ท่อระบายเบสเมื่อทดลองเปลี่ยนฟังเทียบกันระหว่างท่อสั้นกับท่อยาว ผมพบว่า มัน (ท่อทั้งสอง) ส่งผลกับเสียงเยอะมาก.! ฟังออกชัดเจน โดยเฉพาะความถี่ต่ำ เมื่อใช้ท่อสั้น แม้ว่าเสียงทุ้มจะทอดลงไปได้ไม่ลึกเท่าท่อยาว แต่มันจะให้เสียงเบสต้นๆ ที่โด่งขึ้นมามากกว่า ในขณะที่ท่อยาวให้เสียงเบสตลอดย่านที่ราบเรียบกว่า จากการทดลองผมพบว่า เมื่อมีการเปลี่ยนท่อ ไม่ว่าจะเปลี่ยนจากท่อสั้นไปเป็นท่อยาว หรือตรงข้าม ผมต้องเซ็ตอัพตำแหน่งลำโพงใหม่เสมอ ยกตัวอย่างตอนที่ใส่ท่อสั้น เสียงเบสต้นๆ จะโด่งทำให้ผมไม่ต้องดันลำโพงทั้งสองข้างลงไปชิดผนังหลังมากก็ได้เสียงที่มีโทนัลบาลานซ์สมดุล และได้สนามเสียงที่แผ่ลึกลงไปด้านหลังลำโพงด้วย ทว่า เสียงเบสลึกๆ จะบางไปหน่อย และรู้สึกว่าปลายเสียงเบสมีลักษณะที่แผ่สั้นไปนิด ไม่ทอดยาว พอเปลี่ยนท่อยาวเสียงทุ้มเปลี่ยนไปเลย อาการโด่งที่ทุ้มต้นๆ หายไป สมดุลของโทนเสียงเสีย ทำให้ผมต้องขยับลำโพงทั้งสองข้างให้ชิดลงไปทางผนังหลังมากขึ้น เมื่อได้ตำแหน่งที่โทนัลบาลานซ์ลงตัวตั้งแต่ทุ้มกลางแหลมแล้ว ผมพบว่า ท่อยาวให้เสียงโดยรวมออกมาดีกว่าท่อสั้น ไม่ว่าจะเป็นคอนทราสน์และทรานเชี้ยนต์ไดนามิกที่ดีกว่า เนื้อเสียงก็ดีกว่า มิตินิ่งกว่า ที่ด้อยกว่าก็แค่ว่าเวทีเสียงด้านลึกจะตื้นกว่านิดนึง เพราะต้องดันลำโพงทั้งสองข้างลงไปชิดผนังหลังมากขึ้นนั่นเอง

หลังจากทดลองเซ็ตอัพด้วยท่อระบายเบสทั้งสองขนาดแล้ว ผมเข้าใจว่า การเลือกใช้ท่อยาวหรือสั้นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับระยะความลึกของห้องด้วย ซึ่งในห้องฟังของผมใช้ท่อยาวเสียงลงตัวมากกว่า ส่วนระยะลงตัวระหว่างลำโพงทั้งสองข้างอยู่ที่ระยะห่างซ้าย/ขวา = 180 .. ส่วนระยะห่างผนังหลังอยู่ที่ 172 .. ดันจากระยะความลึกของห้องหาร 3 ลงไปเท่ากับ 10 .. เป็นตำแหน่งที่ให้ค่าเฉลี่ยที่ดีกับการฟังเพลงทุกแนว

ส่วนการเชื่อมต่อสายลำโพง ผมพบว่า ลำโพงคู่นี้ไปกันได้ดีกับสายลำโพงของ Purist Audio Design รุ่น Aqueous Aureus (แบบซิงเกิ้ลไวร์) ที่ผมใช้ประจำอยู่ในห้องฟัง และจากการทดลองสลับฟังผมพบว่า การเสียบสายลำโพงที่ขั้วต่อคู่บนกับคู่ล่างให้เสียงต่างกันอย่างชัดเจน สำหรับซิสเต็มที่ผมใช้ทดสอบพบว่า เสียบสายลำโพงที่ขั้วบน (ตามภาพด้านบน) ให้เสียงดีกว่าเสียบคู่ล่าง ถ้าคุณซื้อลำโพงคู่นี้ไปใช้กับสายลำโพงแบบซิงเกิ้ลไวร์ แนะนำให้ทดลองสลับฟังดู ในซิสเต็มของคุณอาจจะเป็นเสียบคู่ล่างให้เสียงถูกใจคุณมากกว่าเสียบคู่บนก็เป็นไปได้

เสียงของ REF 1 Meta

จากที่เคยทดสอบลำโพงรุ่น LS50 Meta มาแล้ว (REVIEW) ผมจำได้เลยว่า คุณภาพของ เสียงกลางเป็นจุดเด่นของไดเวอร์ Uni-Q ตัวนี้ ความถี่ตั้งแต่ย่านกลางขึ้นไปถึงแหลมออกมาดีมาก อย่างแรกคือ โฟกัสของตัวเสียงที่คมมาก ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากไดเวอร์ Uni-Q ที่ให้เฟสของเสียงในย่านกลางขึ้นไปถึงแหลมที่แม่นยำแบบ ล็อคเป้าไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเลื่อนขยับลำโพงไปทางไหน ทวีตเตอร์และมิดเร้นจ์มันจะเกาะกันไปตลอด นี่คือคุณภาพเชิงเฟสที่โดดเด่นมากสำหรับลำโพงคู่นี้ ซึ่งนอกจากโฟกัสแล้ว เสียงกลางแหลมของ LS50 Meta ยังมีลักษณะที่เปิดกระจ่าง สะอาด และมีรายละเอียดที่ดีอีกด้วย

สังกัด : What A Difference A Day Makes (WAV-16/44.1)(CD Layer)
ศิลปิน : Ingram Washington
สังกัด : STS Digital

REF 1 Meta ก็ทำได้ไม่ด้อยไปกว่า LS50 Meta ในประเด็นของความคมชัดของโฟกัสและความสะอาด เปิดโปร่ง แต่ส่วนที่ REF 1 Meta ทำได้เหนือกว่า LS50 Meta ขึ้นไปเยอะก็คือ เสียงทุ้มที่มีทั้ง ปริมาณและ คุณภาพที่สูงกว่ามาก ถ้าเทียบกัน เสียงทุ้มของรุ่น LS50 Meta จะขยับขึ้นไปใกล้กับเสียงกลางตอนล่าง ในขณะที่ REF 1 Meta จะถ่างเสียงทุ้มให้ถอยห่างลงมาจากเสียงกลางตอนล่างมากกว่า ส่งผลให้เสียงอะคูสติกเบสกับเสียงร้องของ Ingram Washington ในอัลบั้มชุด ‘What A Difference A Day Makesแยกขาดจากกันเด็ดขาด ต่างคนต่างขยับตัวด้วยลีลาที่ต่างกันอย่างชัดเจน ไม่มีลักษณะที่ควบกล้ำไปด้วยกันเหมือนตอนที่ผมฟังผ่าน LS50 Meta

แต่เมื่อย้อนฟังซ้ำไปซ้ำมาสองสามเที่ยว สิ่งที่ได้ยินจากเพลงเดียวกันนี้ (What A Difference A Day Makes) ก็ฟ้องให้เห็นชัดว่า เสียงของ REF 1 Meta เหนือกว่า LS50 Meta มาก.! เมื่อฟังผ่าน REF 1 Meta จะเห็นได้ชัดว่าเสียงร้องของอินแกรมออกมาใหญ่กว่า ช่วงลงลูกคอเสียงของอินแกรมก็ออกมาทุ้มกว่า ในขณะเดียวกัน เสียงอะคูสติกเบสในเพลงนี้ก็แยกตัวออกไปจากเสียงร้องอย่างชัดเจน แม้ว่าบางช่วงโน๊ตของอะคูสติกเบสกับเสียงร้องจะอยูในย่านความถี่ที่ใกล้เคียงกัน แต่ REF 1 Meta ก็จับทั้งสองเสียงแยกออกจากกันให้ได้ยินชัดทั้งคู่ ไม่มีอาการกลืนไปเป็นเนื้อเดียวกัน นี่น่าจะเป็นอิทธิพลของการเพิ่มวูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว เข้ามารองรับความถี่ต่ำจากมิดเร้นจ์ 5 นิ้ว ของ Uni-Q นั่นเอง ในรุ่น LS50 Meta ตัวมิดเร้นจ์จะต้องแบกภาระในการสร้างความถี่ย่านต่ำออกมาด้วย ในบางจังหวะที่โน๊ตสองตัวที่อยู่ในย่านกลางต่ำ (โลเวอร์ มิดเร้นจ์) กับย่านอัปเปอร์เบสเกิดขึ้นพร้อมกัน LS50 Meta จะทำให้โน๊ตสองตัวนั้นมีลักษณะที่ควบกล้ำกัน แยกจากกันได้ไม่เด็ดขาดเท่ากับตอนฟังผ่าน REF 1 Meta ตัวนี้

อัลบั้ม : My Life Story (WAV-16/44.1)(CD Layer)
ศิลปิน : Susan Wong
สังกัด : Evosound

เมื่อฟังอัลบั้มนี้ผ่าน REF 1 Meta มันทำให้ผมเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาเลาๆ ตอนฟังอัลบั้ม ‘My Life Storyของซูซาน หว่อง เสียงที่ออกมามีความอิ่ม เต็ม และเด้ง ซึ่งเป็นบุคลิกของเสียงที่คนทั่วไปชื่นชอบ ฟังเพลงแบบนี้แล้วมันไปกับแนวเสียงของ REF 1 Meta มากทีเดียว จะเรียกว่าเป็น สีสันก็คงได้ แต่ไม่ใช่สีสันที่ฟังแล้วแปร่งหู แต่เป็นสีสันของเสียงที่ทำให้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกพึงพอใจ มันเป็นความรู้สึกคนละแบบกับความซาบซึ้งในอรรถรสของเพลง เสียงที่ REF 1 Meta ถ่ายทอดออกมากับเพลง You’ve Got A Friend มันคือลักษณะของเสียงที่คนทั่วไปอยากฟัง รายละเอียดแผ่กระจายเต็มพื้นที่ เสียงเบสไฟฟ้าที่มาพร้อมกระเดื่องกลองทิ้งตัวลงบนพื้น เสียงร้องพุ่งเปิด ทุกเสียงมีพลังดีดตัว เป็นสีสันที่ทำให้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกรุกเร้าความสนใจ อยากจะฮัมเนื้อร้องตามไปด้วย

อัลบั้ม : Simply Me (WAV-16/44.1)
ศิลปิน : โจ้ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์
สังกัด : แกรมมี่

ตอนเลือกเพลงไทยมาฟังผมก็พบว่า ลำโพง REF 1 Meta ตัวนี้มีเสน่ห์ตรงที่มันช่วย เกลี่ยตำหนิในแง่ของการบันทึกเสียงที่มีอยู่ในเพลงทั่วๆ ไปให้ฟังออกมาแล้วไม่รู้สึกเลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นเพลงสากลยอดฮิตที่ออกมาในช่วงยุค 60 – 70 รวมถึงเพลงไทยส่วนใหญ่ที่มักจะให้เนื้อเสียงออกมาบาง เมื่อฟังผ่าน REF 1 Meta คู่นี้จะออกมาในลักษณะที่ฟังได้ ตำหนิต่างๆ เหล่านั้นจะไม่ถูกเน้นออกมา ที่เด่นคือเนื้อเสียงที่มีความอิ่มหนามากขึ้น ฟังสบายมากขึ้น คนที่อยากได้ลำโพงที่ฟังเพลงทั่วๆ ไปได้ดี ไม่ขี้ฟ้อง และใช้ฟังเพลงที่บันทึกดีก็ออกมาดีน่าพอใจ แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นชำแหละรายละเอียดออกมาเป็นเม็ดๆ แต่สิ่งที่ REF 1 Meta คู่นี้ถ่ายทอดออกมาก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของลำโพงระดับกลางสูงขึ้นไปเยอะ ถ้าใช้แอมป์ที่มีประสิทธิภาพสูงๆ อย่าง Accuphase E-4000 แล้วทำการเซ็ตอัพดีๆ คุณก็จะได้ลำโพงที่มีคุณสมบัติอยู่ตรงกลางระหว่าง ความเป็นธรรมชาติกับ ความเป็นดนตรีโดยมี สีสันแต้มมาบางๆ

สรุป

REF 1 Meta คู่นี้ให้คุณภาพเสียงอยู่ในระดับสูงกว่ารุ่น LS50 Meta ที่ผมเคยทดสอบไปแล้วอยู่มากพอสมควร ด้วยประสบการณ์ที่ได้ทดลองแม็ทชิ่ง, เซ็ตอัพและปรับจูน REF 1 Meta จากการทดสอบครั้งนี้ ทำให้เห็นว่า ทีมออกแบบของ KEF พยายามดันคุณภาพเสียงของซีรี่ย์ REFERENCE ให้เหนือขึ้นไปกว่าซีรี่ย์ LS ที่เป็นลำโพงแอ๊คทีฟที่พวกเขาทำออกมาได้ดีมาก ซึ่งผลการทดสอบผมต้องขอบอกว่า พวกเขาทำได้สำเร็จระดับหนึ่งที่สามารถก้าวข้ามมาตรฐานของเสียงที่ซีรี่ย์ LS ทำไว้ได้ ทว่า เมื่อพวกเขาปล่อยลำโพงซีรี่ย์ REFERENCE ออกสู่ตลาด สิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้อง เสี่ยงมากกว่าเมื่อเทียบกับซีรี่ย์ LS นั่นก็คือ ความเข้าใจของยูสเซอร์ในการแม็ทชิ่งเซ็ตอัพปรับจูนเพื่อดึงคุณภาพเสียงออกมาจากลำโพงคู่นี้.. สาเหตุที่เสี่ยงก็เพราะว่า REF 1 Meta เป็นลำโพงพาสซีฟนี่แหละ.. /

***********************
ราคา : 429,900 บาท / คู่
***********************
สนใจสั่งซื้อได้ที่
ร้าน Piyanas ทุกสาขา
ร้าน HD HiFi ทุกสาขา
ร้าน Theater House
ร้าน Audiomate BKK
และร้านเครื่องเสียงชั้นนำทั่วประเทศ

ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ติดต่อ
บริษัท วีแกดซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
โทร. 02-692-5216
LINE OA: @Vgadz

mm

About ธานี โหมดสง่า

View all posts by ธานี โหมดสง่า