การจัดสายเชื่อมต่อต่างๆ ของชุดเครื่องเสียงไม่ให้แตะกัน เป็นคำแนะนำที่มีมานานมากแล้ว และได้รับความเชื่อถือจากนักเล่นในวงกว้างว่ามันให้ผลทางเสียงที่ดีขึ้นจริง
คำอธิบายถึงมูลเหตุที่ฟังดูเข้าท่ามากที่สุดก็คือเรื่องของ “สนามแม่เหล็ก” ซึ่งมีอิทธิพลกับการไหลของสัญญาณในสายเชื่อมต่อต่างๆ โดยอ้างตามกฏมือขวาของ เฟรมมิ่ง (Fleming’s Right Hand Rule) ที่ว่า ขณะที่กระแสอิเล็กตรอน (ไฟฟ้า) ไหลผ่านเส้นโลหะตัวนำที่อยู่ภายในสายต่าง (ทั้งสายสัญญาณ, สายลำโพง, สายดิจิตัล, สาย LAN และสายไฟเอซี) จะทำให้เกิดสนามแม่เหล็กที่มีทิศทางวนรอบตัวนำ ซึ่งพลังของสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นบนตัวสายต่อเชื่อมทุกชนิดจะแผ่ออกไปจากตัวสายโดยรอบ เขาว่ากันว่า ถ้าสายต่อเชื่อมต่างๆ พาดแตะกัน หรืออยู่ชิดกันมากๆ จะทำให้สนามแม่เหล็กบนสายแต่ละเส้นมีการรบกวนซึ่งกันและกัน ส่งผลกระทบไปถึงการเดินทางของสัญญาณ (อิเล็กตรอน) ที่วิ่งไปตามตัวนำ ซึ่งปรากฏการณ์นั้นเองที่ส่งผลกับเสียง
อีกคำอธิบายที่ฟังดูมีน้ำหนักพอสมควรก็คือเรื่องของ “แรงสั่นสะเทือน” หรือ vibration ซึ่งขณะที่สัญญาณ (กระแสอิเล็กตรอน) วิ่งไปบนตัวนำในสายนั้น จะก่อให้เกิดการสั่นบนตัวสาย ลองเอามือแตะเบาๆ บนตัวสายขณะเปิดเพลงฟังจะรู้สึกได้ถึงอาการสั่นเบาๆ นั้น ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติ แต่ถ้าสายต่อเชื่อมถูกทำให้สั่นผิดไปจากพฤติกรรมปกติขณะที่มีกระแสอิเล็กตรอนไหลผ่านตัวนำ จะทำให้สนามแม่เหล็กที่เกิดรอบๆ ตัวนำมีลักษณะที่แกว่งไม่คงที่ ซึ่งคาดเดากันว่า อาการแกว่งของสนามแม่เหล็กนี้คงจะส่งผลกับสัญญาณเสียง ดังนั้น การแยกสายต่อเชื่อม “ทุกชนิด” ทั้งสายสัญญาณ, สายลำโพง และสายไฟเอซี/ดีซี ให้ห่างจากกันให้มากที่สุดจะช่วยลดปัญหาข้างต้นทั้งสองกรณีได้ ทำให้เสียงไม่ถูกรบกวนนั่นเอง /
********************
* ผลกระทบที่มีต่อเสียงเหล่านี้ตรวจวัดด้วยการฟังด้วยหูจากชุดเครื่องเสียง แล้วนำไปสู่ความพยายามค้นหาคำอธิบายที่เป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งหลายๆ ปรากฏการณ์ยังไม่มีคนทำการวิจัยเฉพาะเรื่องออกมา ดังนั้น คำอธิบายข้างต้นจึงเป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น
** จากการทดลองพบว่า ผลกระทบที่มีต่อเสียงในกรณีของสายต่อเชื่อมในซิสเต็มที่แตะถึงกันจะรับรู้ได้ง่ายขึ้นถ้า
– สายต่อเชื่อมไม่มีชีลด์ป้องกันดีพอ
– ซิสเต็มเครื่องเสียงอยู่ในสภาพห้องที่มีความเงียบสงัดมากพอ
– ซิสเต็มมีการเซ็ตอัพตำแหน่งลำโพงที่ลงตัว
– ระบบไฟสะอาด มีการรบกวนปนมากับไฟฟ้ายิ่งน้อยยิ่งฟังได้ชัด