ขึ้นชื่อว่า “นักเล่นเครื่องเสียง” เชื่อว่าการมีห้องฟังเพลงส่วนตัวน่าจะเป็นความฝันสูงสุดของนักเล่นฯ ทุกคน ถ้าคุณมีโอกาสที่จะสร้างห้องฟังเพลงเป็นของตัวเอง คุณเคยคิดมั้ยว่า ห้องฟังเพลงของคุณจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน.?
บทที่ ๑ : ภาพในฝัน กับความหมายของ Serious Music Lover
ถ้า “มิวสิค เลิฟเวอร์” (music lover) หมายถึงคนทั่วไปที่มีใจชอบฟังเพลง เช่นนั้นแล้ว คำว่า “ซีเรียส มิวสิค เลิฟเวอร์” (serious music lover) ควรจะหมายถึงคนประเภทไหน.?
“ซีเรียส” แปลว่าเอาจริงเอาจัง ส่วน “มิวสิค เลิฟเวอร์” หมายถึงคนชอบฟังเพลง เมื่อสองคำนี้มาสมาสเข้าด้วยกันก็พอจะแปลความหมายออกมาได้ว่าคือ “คนชอบฟังเพลงอย่างเอาจริงเอาจัง”
“ฟังเพลงอย่างเอาจริงเอาจัง” ..? ก็คือการฟังเพลงให้เข้าถึง “ความหมาย” ที่เจ้าของบทเพลงต้องการนำเสนอให้ครบใน “ทุกมิติ” นั่นเอง
เนื่องจากเพลงเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการนำเสนอ “เรื่องราว”, “อารมณ์” และ “จินตนาการ” ผ่านออกมาทางเสียงดนตรี ซึ่งเพลงถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ละประเภทจะมีลักษณะการนำเสนอเรื่องราว, อารมณ์ และจินตนาการที่แตกต่างกันไป ด้วยเหตุนี้ เพลงแต่ละเพลงจึงถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคในการเขียนคำร้อง, เทคนิคในการเขียนทำนอง, เทคนิคในการเรียบเรียงดนตรี, เทคนิคในการบรรเลง, เทคนิคในการบันทึกเสียง ไปจนถึงเทคนิคในการมิกซ์เสียงต่างๆ ซึ่งเป็นวัตถุดิบทั้งหมดให้หลอมรวมกันออกมาเป็นเพลง
ยกตัวอย่างเช่นเพลงร้อง ก็มี “เนื้อร้อง” เป็นเครื่องมือที่เจ้าของเพลงใช้ในการสื่อสารกับผู้ฟัง โดยอาศัยเสียงร้องของศิลปินที่ถูกคัดเลือกมาเป็นคนถ่ายทอดให้ผู้ฟังเข้าถึง “เรื่องราว” และ “อารมณ์” ของเนื้อร้องเหล่านั้น ซึ่งเพลงประเภทนี้ภาคดนตรีอาจจะไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนัก แต่เพลงแนวแจ๊สหรือคลาสสิกเป็นเพลงที่ใช้ความลึกซึ้งละเอียดอ่อนในการสร้างสรรมากกว่า ซึ่งเจ้าของเพลงจงใจที่จะใช้ภาคดนตรีที่มีความซับซ้อนเป็นตัวเล่าเรื่อง การที่ผู้ฟังจะสามารถเชื่อมโยงกับเพลงเหล่านี้ เพื่อเข้าให้ถึงก้นบึ้งของ “อารมณ์” และ “เนื้อหา” หรือ “เรื่องราว” ที่ผู้ประพันธ์ต้องการสื่อสารออกมาได้ตรงกับสิ่งที่เจ้าของเพลงต้องการนำเสนอจริงๆ รายละเอียดของเสียงดนตรีในเพลงนั้นๆ จะต้องถูกถ่ายทอดออกมาได้ตรงกับต้นฉบับของเพลงนั้นให้มากที่สุด ซึ่งในกรณีนี้ ต้องอาศัยคุณภาพของชุดเครื่องเสียงที่ดีพอ ผนวกกับสภาพแวดล้อมในการฟังที่ถูกจัดการไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสภาพอะคูสติกที่เอื้อต่อการแสดงศักยภาพของลำโพงและชุดเครื่องเสียง ไปจนถึงบรรยากาศแวดล้อมภายในห้อง (แสงสว่าง, อะโรม่า) ที่ทำให้โสตประสาทของผู้ฟังอยู่ในสถานภาพที่มีสมาธิสูงพอต่อการเชื่อมโยงจินตนาการของผู้ฟังให้แนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกับเรื่องราวที่บทเพลงนั้นต้องการนำเสนอออกมาด้วย
ยังมีรายละเอียดลึกๆ อีกแง่หนึ่งที่แอบซ่อนอยู่ในหลายๆ บทเพลงที่คุณฟัง รายละเอียดที่ว่านั้นก็คือ “มิติ–เวทีเสียง” ซึ่งเป็นลูกเล่นที่ซาวนด์เอ็นจิเนียร์นำมาใช้กับการสร้างสรรบทเพลงให้มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากขึ้น คนที่ไม่ได้เล่นเครื่องเสียงยากที่จะมีโอกาสได้สัมผัสกับรายละเอียดในส่วนนี้ เนื่องจากการที่จะให้ได้มาซึ่งคุณลักษณะของ “มิติ–เวทีเสียง” ที่ถอดแบบออกมาจากบทเพลงให้เหมือนกับตอนที่ซาวนด์เอ็นจิเนียร์ทำการมิกซ์ฯ อยู่ในสตูดิโอนั้น นอกจากต้องอาศัยเครื่องเสียงที่มีคุณภาพดีแล้ว ยังต้องอาศัยห้องฟังที่ดีรวมถึงการเซ็ตอัพและปรับจูนที่ละเอียดอ่อนด้วย
คนที่ชอบฟังเพลงบรรเลงแนว new age จะเข้าใจความหมายที่ว่านี้ได้ดี ซึ่งเพลงแนวขายจินตนาการแบบนี้จะอาศัยเทคนิคการมิกซ์เสียงเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการนำเสนอเนื้อหา–เรื่องราวของเพลง ตัวอย่างเช่นงานเพลงของ Kitaro, Vangelis, Ray Lynch, Osamu Kitamura, Mike Oldfield, Brent Lewis ฯลฯ ซึ่งหากคุณฟังเพลงของพวกเขาเหล่านี้โดยไม่ได้สัมผัสกับมิติ–ซาวนด์สเตจที่แอบซ่อนมากับเพลงเหล่านี้เลย นั่นก็เท่ากับว่าคุณได้สูญเสียอรรถรสไปเยอะ ไม่ได้เข้าถึงอรรถรสของเพลงเหล่านี้ได้ครบทุกมิติจริงๆ อย่างที่ศิลปินเจ้าของบทเพลงต้องการนำเสนอ
ดังนั้น ภาพในฝันของห้องฟังสำหรับซีเรียส มิวสิค เลิฟเวอร์ก็คือห้องฟังที่ทำให้การฟังเพลงเข้าถึง “ความหมาย” ที่เจ้าของบทเพลงต้องการนำเสนอให้ครบใน “ทุกมิติ” ซึ่งถือว่าคือยอดปรารถนาของ Serious Music Lover อย่างแท้จริง เป็นการฟังเพลงที่ทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึง “เรื่องราว“, “อารมณ์” และ “มิติเสียง” ของเพลงนั้นๆ ได้ครบทั้งสามมิตินั่นเอง /
********************
บทที่ ๒ : แนวคิด “ห้องฟัง” ของ Serious Music Lover
บทที่ ๓ : “ห้องฟังเพลง” ของผม!
บทที่ ๔ : เริ่มต้นสานฝันห้องฟังของผม ตามเส้นทางของ “Serious Music Lover”
บทที่ ๕: ได้สัดส่วนห้องมาแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาของ “โครงสร้าง”
บทที่ ๖: งานก่อสร้างเพื่อการขยายห้องนอนให้เป็นห้องฟัง
บทที่ ๗: การจัดการสภาพอะคูสติกในห้องฟัง



