ได้ฟังเสียงของหูฟังตัวนี้แล้ว ผมต้องขอโน้มศีรษะคารวะให้กับ “เทคโนโลยี” ด้วยความชื่นชมจริงๆ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ.? ถ้าไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างมากในปัจจุบัน ผมก็เชื่อว่าเราคงจะไม่มีโอกาสได้ใช้หูฟังที่มีคุณภาพเสียงดีๆ ระดับนี้ในราคาไม่ถึงสามพันบาทอย่างแน่นอน.!!
หูฟังของ Soul ตัวนี้ดีอย่างไร.? มาดูกันครับ..
“Soul” หูฟังจากอเมริกา
ต้องยอมรับว่า สินค้าประเภท “หูฟัง” ในตลาดทุกวันนี้มีอยู่มากมายจนนับกันไม่หวาดไม่ไหว มีแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบตามประเภทของการใช้งานบ้าง แบ่งตามลักษณะของการออกแบบบ้าง และยังแบ่งตามระดับราคาอีก ซึ่งประโยชน์ของการจัดแบ่งที่ละเอียดละออเช่นนี้ก็คือทำให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีน่าพอใจสำหรับ “นักฟังเพลง” ที่มีความรักชอบการฟังเพลงมากเป็นพิเศษ การเลือกซื้อหูฟังเพื่อตอบสนองความต้องการในลักษณะนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่เลือกได้ยากสำหรับคนทั่วไป ต้องอาศัยผลจากการทดสอบรีวิวโดยผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะทางมาเป็นข้อมูลช่วยซื้อ
Soul เป็นแบรนด์ผู้ผลิตหูฟังและลำโพงไร้สายบลูทูธจากประเทศสหรัฐอเมริกา รุ่น Impact2 ตัวนี้ผลิตในประเทศจีนเหมือนแบรนด์ดังๆ ทั่วไป เพื่อให้สามารถตั้งราคาขายแข่งขันอยู่ในระดับนี้ได้ ปัจจุบันแบรนด์ Soul นี้มีสินค้าหูฟังอยู่หลายรุ่น แยกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ Headphones = คือหูฟังที่มีขนาดใหญ่ (full size) แบบครอบหู ประเภทนี้มีอยู่ทั้งหมด 4 รุ่น, ประเภทที่สองคือ Earphones = เป็นกลุ่มของหูฟังขนาดเล็ก แบบมีสาย ใช้แยงเข้าไปในรูหู กลุ่มนี้มีอยู่ทั้งหมด 10 รุ่น, ประเภทที่สามคือ True Wireless = เป็นหูฟังอินเอียร์แบบไม่ใช้สาย ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 6 รุ่น
หูฟังของ Soul เกาะกลุ่มกันอยู่ในระดับราคาที่ไม่สูงมาก หลักพันซะเป็นส่วนใหญ่ คุณภาพวัสดุและเนื้องานอยู่ในเกณฑ์ดีพอสมควร เหมาะกับคนที่ต้องการหูฟังที่มีราคาไม่สูง แต่เน้นคุณภาพเสียงเพื่อใช้ฟังเพลงได้อย่างมีอรรถรส ผมมีโอกาสได้ไปทดลองฟังอยู่หลายรุ่น และเลือกมาทำการทดสอบให้แฟนเพจของผมไปเลือกซื้อกัน 2 รุ่นที่ให้เสียงถูกใจผม นั่นคือ Impact2 ที่กำลังจะพูดถึงตัวนี้ กับรุ่น X-Shock ที่จะรีวิวต่อไปอีกรุ่น
Soul : Impact2
ราคาไม่สูง แต่คุณภาพเสียงดีเกินราคา!
หูฟังรุ่น Impact2 ตัวนี้เป็นความภาคภูมิใจของผมที่ขออนุญาตนำเสนอ ประมาณว่าเป็นช้างเผือกที่ผมไปค้นหาจนพบ คือเป็นหูฟังอินเอียร์ขนาดเล็กที่ให้คุณภาพเสียงดีเกินตัวในสนนราคาอยู่ในเกณฑ์ที่มีคนขอมามากที่สุด คือระหว่าง 2-3 พันบาท ซึ่งเกณฑ์ที่ผมใช้วัดในการค้นหามิได้พยายามเอาไปเทียบกับหูฟังแพงๆ หลักหมื่นในแง่ของเสียงที่เหมือนจริงอะไรพรรณนั้น แต่ผมใช้เกณฑ์ของ “ความเป็นดนตรี” ในการตัดสิน ซึ่งผมพบว่า หูฟังอินเอียร์ตัวเล็กๆ ที่มีชื่อรุ่นว่า Impact ยกกำลัง 2 ตัวนี้มันให้น้ำเสียงที่ฟังเพลงเพลินมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงช้าหรือเพลงเร็วมันสามารถตีบทแตก นำพาอารมณ์เพลงเหล่านั้นมาให้สนองตอบได้อย่างน่าพึงใจอย่างยิ่ง
แม้ว่าราคาจะไม่แรง แต่เนื้องานดีมากเลย แพ็คเกจมืออาชีพ ดูมีเกรด เอาจริงเอาจังไม่ตีหัวเข้าบ้าน
ก่อนจะไปลงลึกเรื่องเสียงของมัน เรามาดูรายละเอียดด้านอื่นๆ ของหูฟังตัวนี้กันก่อน..
ตัวหูฟังมีขนาดเล็กกระทัด น้ำหนักเบามาก น้ำหนักแค่ 17.5 กรัม เท่านั้นเอง จึงสามารถใส่ฟังได้นานโดยไม่มีอาการล้าหูเลย
บอดี้ของตัวหูฟังมีรูปทรงออกไปทางสี่เหลี่ยมคางหมู โดยมีด้านที่กว้างกว่ากับด้านยาววัดได้ 1.5 ซ.ม. เท่ากัน
ช่วงความลึกของตัวบอดี้ ระยะจากปลายท่อระบายเสียงส่วนที่แหย่เข้าไปในรูหู ลงไปถึงแผงหลังของตัวบอดี้วัดได้ 2 ซ.ม. ซึ่งรอบนอกตัวบอดี้ของ Impact2 ตัวนี้ ทำด้วยพลาสติกใสสีชา หุ้มห่อโครงสร้างทั้งหมดของตัวหูฟังเอาไว้ ส่วนที่เป็นท่อระบายเสียงมีความยาว 0.5 ซ.ม. สังเกตทรงของบอดี้ถูกหล่อให้มีลักษณะที่สอดรับกับช่องว่างในใบหูกับส่วนปากช่องรูหูพอดีๆ เมื่อสอดใส่เข้าไปใน ส่วนของบอดี้ใสๆ ที่เป็นสีชาจะซุกเข้าไปอยู่ในหูของเราทั้งหมด โผล่ออกมาให้เห็นเฉพาะส่วนที่เป็นสีโลหะอะลูมิเนียม มีผลให้ตัวบอดี้ทำหน้าที่เป็นชีลด์ช่วยบล็อกเสียงจากภายนอกได้ระดับหนึ่ง
ปากท่อระบายเสียงมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 0.4 ซ.ม. มีตะแกรงโลหะเจาะรูพรุนปิดกั้นไว้ตรงปากท่อ ป้องกันขี้หูหลุดลอดเข้าไป
Impact2 เป็นหูฟังที่ออกแบบมาโดยเน้นคุณภาพเสียง จึงได้ออกแบบโดยแม็ทชิ่งสายหูฟังที่ยาว 120 ซ.ม. ติดตายมากับตัวหูฟัง ใช้ตัวนำทองแดงเคลือบเงิน แยกแชนเนลละ 2 เส้น โดยถักไขว้ (twisted) มาด้วยกันทั้งสี่เส้น (A) ตั้งแต่ขั้วต่อยาวออกมา 75 ซ.ม. ก่อนจะแยกไปที่หูฟังแต่ละข้างๆ ละ 2 เส้น ยาวข้างละ 45 ซ.ม. (B)
ที่สายหูฟังข้างขวา มีไมโครโฟน (B) กับสวิทช์กดเพื่อรับสายโทรฯ เข้า (A) และควบคุมการเล่นไฟล์เพลงบนสมาร์ทโฟนได้ คือกดเพื่อสั่งเล่น (play) และสั่งหยุดชั่วคราว (pause) ได้ แต่จะใช้กับเพลเยอร์พวก DAP ไม่ได้
ขั้วต่อของสายหูฟัง Impact2 เป็นแบบ TRRS (ศรชี้) ต่อสัญญาณเสียงแบบ unbalanced sigle-end รองรับการส่งผ่านสัญญาณเสียงจากสมาร์ทโฟนและเครื่องเล่นไฟล์เพลงแบบพกพา (DAP) นำส่วสู่ตัวหูฟังด้วยสายสัญญาณข้างละ 2 เส้น ตัวขั้วต่อชุบทอง 24K เพื่อการส่งผ่านสัญญาณเสียงที่ดี
มีกล่องใส่หูฟังขนาดเล็กมาให้ สำหรับใช้พกพาไปใช้งานนอกสถานที่
ในกล่องมีอุปกรณ์เสริมมาให้ 3 อย่าง คือ กล่องใส่ 1 ใบ, อะแด๊ปเตอร์ 3.5mm > 6.3mm หนึ่งอัน และจุกอีก 8 คู่ 3 รูปแบบ คือจุกที่ทำด้วยซิลิโคน 4 คู่ ขนาด XS, S, M (ติดอยู่บนตัวหูฟัง) และ L, ทำด้วยเมมโมรี่โฟม 2 คู่ ขนาด S กับ L และแบบทรงชฎาสามชั้นทำด้วยซิลิโคนอีก 2 คู่ขนาด S และ L ซึ่งจากการทดลองผมพบว่า ลักษณะร่องหูและช่องรูหูของผมลงตัวพอดีๆ กับจุกซิลิโคนเบอร์ M ที่ติดมาบนตัวหูฟัง ถ้าคุณซื้อหูฟังรุ่นนี้ไปใช้ แนะนำให้ทดลองใช้จุกให้ครบทุกคู่นะครับ แล้วเลือกคู่ที่ให้เสียงดีที่สุดและใส่สบายที่สุดสำหรับคุณ สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้หูฟังแบบอินเอียร์อย่างนี้มาก่อน ขอบอกเลยว่า จุกยางนี้มีผลต่อการสวมใส่และมีผลต่อคุณภาพเสียงเยอะมาก ต้องทดลองเท่านั้น
ดีไซน์ + แม็ทชิ่ง
หูฟังตัวนี้ใช้เทคนิคในการออกแบบไดเวอร์ในลักษณะที่เรียกว่า “ไฮบริด” (hybrid dual driver) คือใช้ไดเวอร์สองตัวทำงานร่วมกัน เป็นไดเวอร์ไดนามิกกับไดเวอร์ balance armature อย่างละตัว แต่ไม่ได้แจ้งข้อมูลของไดเวอร์ทั้งสองเอาไว้ ตอบสนองความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 20Hz ขึ้นไปจนถึง 20kHz มีความต้านทาน (อิมพีแดนซ์) อยู่ที่ 20 โอห์ม แสดงว่าขับไม่ยาก ไม่กินกำลังแน่ๆ ไปดูที่ความไวอยู่ที่ 107dB ถือว่าค่อนไปทางไวไฟพอสมควร ทนกำลังสูงสุดได้ 10mW ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น่ากลัวเลยสำหรับการแม็ทชิ่งกับแอมป์ ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่ากำลังขับของแอมป์ในสมาร์ทโฟนทั่วไปก็น่าจะเอาอยู่
ตอนใส่ให้สังเกตตัวอักษร L และ R ที่ระบุกำกับไว้ที่แป้นยางตรงปลายสายที่ติดกับตัวหูฟังแต่ละข้าง หรือดูจากสวิทช์รีโมทคอนโทรลก็ได้ ซึ่งจะติดตั้งอยู่บนสายหูฟังข้างขวา (R)
เสียงของ Soul : Impact2
หลังจากทดลองฟังเสียงของ Soul : Impact2 ตัวนี้มาอย่างโชกโชนแล้ว ผมกล้าพูดเลยว่า ใครที่เริ่มคุ้นเคยกับเสียงของหูฟังไร้สายที่ใช้วิธีรับ/ส่งสัญญาณเสียงด้วยคลื่น Bluetooth ไม่ว่าจะถูกหรือแพงแค่ไหนก็ตาม ถ้าได้มาฟังเสียงของหูฟัง Impact2 ตัวนี้แล้วต้องมีตกใจแน่ เพราะเมื่อได้ฟังเสียงของหูฟัง Soul ตัวนี้แล้ว คุณจะเข้าใจความหมายที่ผู้เชี่ยวชาญในวงการหูฟังชอบพูดกันว่า “..หูฟังแบบใช้สายจะให้คุณภาพเสียงได้ดีกว่าแบบไร้สาย ” แม้ว่าหูฟังแบบไร้สายที่รับ/ส่งสัญญาณด้วยคลื่น Bluetooth จะได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอย่างมากแล้วในปัจจุบัน แต่เมื่อเทียบกับหูฟังแบบใช้สายที่ออกแบบมาดีในระดับราคาใกล้เคียงกัน คุณจะพบว่า หูฟังแบบใช้สายให้เสียงดีกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเล่นไฟล์เพลงที่มีความละเอียดสูง เสียงที่ได้ก็จะยิ่งออกมาดีขึ้นไปเรื่อยๆ ในขณะที่หูฟังแบบไร้สายจะ “จำกัด” ความละเอียดของสัญญาณที่รองรับได้
เพื่อพิสูจน์ความไวของหูฟังตัวนี้ ผมเริ่มจับคู่มันกับชุดฟังเพลงที่เบสิคที่สุด นั่นคืออาศัย iPhone 7 เป็นเพลเยอร์ผ่านแอพเล่นไฟล์เพลง Onkyo HF Player แล้วส่งสัญญาณดิจิตัลไปที่ DAC/Amp ตัวจิ๋วรุ่น i1 ของ Fiio (ราคาพันกว่าบาท)(รีวิว Fiio : i1) เมื่อดูจากภาพล่างจะเห็นว่า ผมใช้วอลลุ่มแค่ 70% เท่านั้นก็ได้ความดังของเสียงจาก Impact2 ออกมาเต็มที่แล้ว ไดนามิกสวิงได้เต็มเหยียด เวทีเสียงแผ่ขยายออกไปเต็มที่ และรายละเอียดก็พรั่งพรู แสดงว่า กำลังขับของ DAC/Amp เล็กๆ ก็สามารถขับดันหูฟังตัวนี้ให้ได้เสียงออกมาเต็มที่ได้ (iPhone 7 ไม่มีรูเสียบแจ๊ค 3.5mm ของหูฟัง)
หลังจากนั้น ผมก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องเล่นไฟล์เพลงที่ผมมีอยู่ในการทดลองฟัง โดยเริ่มจากตัวเล็กสุดของผมคือ Astell&Kern รุ่น AK Jr. ปรากฏว่าได้เสียงที่ดีขึ้นมาก ในขณะที่โทนเสียงยังคงมีลักษณะเปิดกระจ่างเหมือนเดิม แต่โดยรวมจะมีความนุ่มนวลมากขึ้นกว่าตอนฟังผ่าน iPhone 7 + i1 และผมใช้วอลลุ่มของ AK Jr. ประมาณแค่ 45 – 55% เท่านั้น ก็ได้ความดังเต็มที่ ไดนามิกสวิงได้เต็มเหยียด รายละเอียดพร่างพราย มีความเป็นดนตรีมาก สำหรับอัลบั้มที่บันทึกไม่ดีเสียงจะออกมาติดแข็งๆ แห้งๆ นิดหน่อย แต่ไม่ถือว่าเลวร้าย ดีกว่าที่คาดมาก ถ้าจะให้ประเมิน ผมคิดว่า ถ้าจับคู่กับ DAP รุ่นใหม่ๆ ราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทก็น่าจะลงตัวดีมากแล้ว (DAP รุ่นใหม่ๆ ภาค DAC จะดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าๆ มาก)
สลับมาลองฟัง Impact2 กับเพลเยอร์อีกตัว เป็นของ AR รุ่น M200 ซึ่งเสียงก็ออกมาดีน่าพอใจ สไตล์เสียงใหญ่ อิ่ม ตามสไตล์ของเพลเยอร์ตัวนี้ ซึ่งหลังจากทดลองฟังหลายอัลบั้ม ผมพบว่า วอลลุ่มที่ใช้ฟังโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่าง 60 – 70% ของสเกลวอลลุ่มทั้งหมดของ M200 เท่านั้นเอง
เมื่อลองขยับเอา Impact2 มาจับคู่กับ DAP ระดับกลางสูงอย่าง Sony รุ่น ZX100 เสียงที่ได้ก็ก้าวกระโดดขึ้นไปอีก ไดนามิกเต็ม เวทีเสียงแผ่กว้าง ในขณะเดียวกัน เนื้อเสียงจะออกมานุ่มเนียนกว่าตอนขับด้วยสมาร์ทโฟนอย่างชัดเจน เสียงโดยรวมออกมาน่าพอใจมาก ค่าเฉลี่ยในแต่ละด้านเกินกว่าราคาของตัวหูฟังไปไกลเลย ยิ่งตอนเล่นไฟล์ DSD (ภาพล่างสุด ซึ่ง Sony โชว์เป็น HR) เสียงจะออกมาดีมาก ไดนามิกกว้าง เนื้อเสียงแน่น เวทีเสียงแผ่เต็ม รายละเอียดดี ความต่อเนื่องเยี่ยมมาก ใช้สเกลวอลลุ่มของ ZX100 เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 15 – 25 เท่านั้นเอง (ใช้กำลังขับประมาณ 50-80% ของกำลังขับทั้งหมดของ ZX100)
ช่วงท้ายของการทดสอบ ผมทดลองฟัง Impact2 กับ DAC/Amp ไร้สายบลูทูธของ Audiolab รุ่นดังคือ MDAC nano (รีวิว Audiolab : MDAC nano) ปรากฏว่าได้เสียงออกมาดีมาก อาจจะไม่ดีเท่ากับตอนขับด้วย ZX100 แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีน่าพอใจสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกครึ่งนึง + คุณภาพเสียงอีกครึ่งนึง
สรุป
หูฟังอินเอียร์ตัวเล็กๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร การออกแบบก็ไม่น่าจะยาก แต่เท่าที่ผมได้มีโอกาสทดลองฟังมาแล้วหลายสิบรุ่น (คุณก็ทำแบบผมได้ หา DAP สักตัวแล้วไปที่แผนก gadget ของห้างใหญ่ๆ เลือกจิ้มลองฟังไปเรื่อยๆ) ผมพบว่า สัดส่วนของหูฟังอินเอียร์ที่ให้เสียงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีคุณภาพเสียงที่ให้ความเป็นดนตรีสูงมากๆ เทียบกับจำนวนหูฟังอินเอียร์ทั้งหมดที่ผมได้ลองฟังมาอยู่ในเกณฑ์ ไม่ถึง 10% เท่านั้นเอง พูดง่ายๆ คือ สุ่มๆ หยิบมาในจำนวน 100 รุ่น ลองฟังดูแล้ว ผ่านเกณฑ์แค่ไม่ถึงสิบรุ่นเท่านั้น
ยิ่งเป็นรุ่นที่มีราคาต่ำๆ ไม่เกิน 2 พันบาทลงไป ยิ่งมีโอกาสเยอะมากที่จะเจอกับ “ขยะ” อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ผมก็ยังคงทดลองฟังไปเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาส เพื่อค้นหาหูฟังอินเอียร์ในระดับราคาไม่เกิน 2,000 บาทที่ให้คุณภาพเสียงและความเป็นดนตรีที่ดีมากพอที่ผมจะยอมรับได้
แต่วันนี้.. ถ้าคุณมีงบอยู่ระหว่าง 2,000 – 3,000 บาท และต้องการหูฟังอินเอียร์ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี มีความเป็นดนตรีสูง (เน้นว่า “มีความเป็นดนตรีสูง!“) ผมขอแนะนำ Soul รุ่น Impact2 ตัวนี้ไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดในการทดลองฟัง /
*************************
ราคา : 2,690 บาท / ชุด
*************************
สนใจ : สั่งซื้อออนไลน์
*************************
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บ. อัศวโสภณฯ
website : asavasopon.co.th