หลังจาก Accuphase ปล่อยปรีแอมป์รุ่น C-3800 ออกมาเมื่อปี 2010 เนื่องในวาระฉลองครบรอบ 40 ปีของแบรนด์ไปแล้ว จากนั้นเป็นต้นมา Accuphase ก็เริ่มพัฒนาปรีแอมป์ตัวนี้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งใจให้เป็นปรีแอมป์ระดับเรือธงของแบรนด์ไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นผ่านไป 5 ปี วิศวกรของ Accuphase ก็รวบรวมประสบการณ์ที่ผ่านมาผสมเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดค้น เอาไปอัพเกรดให้กับปรีแอมป์รุ่น C-3800 จนได้ออกมาเป็นรุ่น C-3850 ในปี 2015 ซึ่งนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่สองของปรีแอมป์ระดับเรือธงในอนุกรม C-3000 ของแอคคิวเฟส
C-3900 ปรีแอมป์รุ่นเรืองธง เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ Accuphase
เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 50 ของ Accuphase พวกเขาได้ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพของปรีแอมป์รุ่น C-3850 ขึ้นไปอีกระดับด้วยการอัพเกรดการทำงานของระบบวอลลุ่ม AAVA volume control ที่ใช้อยู่ในรุ่น C-3850 ขึ้นมาเป็น “Dual AAVA volume control”
จาก “AAVA” ที่เยี่ยมยอดอยู่แล้ว
เทคโนโลยีวอลลุ่มคอนโทรล AAVA (Accuphase Analog Vari-gain Amplifier) ที่ Accuphase คิดค้นขึ้นมาใช้กับปรีแอมป์ของพวกเขาก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่เลิศหรูมากสำหรับวงการแอมปลิฟาย คือโดยปกติแล้ว แต่ก่อนแต่ไรมา ระบบวอลลุ่มของปรีแอมปลิฟายทั่วไปจะใช้วิธีการปรับ “ลด” ปริมาณของสัญญาณอินพุตลงด้วย ตัวต้านทาน (resistors) จากนั้นก็นำเอาสัญญาณอินพุตที่ผ่านการปรับลดไปทำการขยาย ซึ่งวิธีนี้ทำให้เกิดสัญญาณรบกวน (noise) ในระบบเพิ่มสูงขึ้น
ลักษณะการทำงานของเทคโนโลยี AAVA ในปรีแอมป์รุ่น C-3800
ระบบวอลลุ่มที่ใช้เทคนิค AAVA ของ Accuphase ไม่ได้ใช้ตัวต้านทานเข้ามาลดปริมาณสัญญาณอินพุตเหมือนทั่วไป แต่จะใช้วงจรแปลง “แรงดัน” (voltage = V) ให้เป็น “กระแส” (current = I) ที่เรียกว่าวงจร “voltage-to-current conversion” ในการกำหนดระดับวอลลุ่ม (หรือ gain) แทน ซึ่งวิธีนี้จะไม่ทำให้เกิดปัญหาความต้านทาน (impedance) ของสัญญาณเกิดการสวิงเปลี่ยนแปลงไป–มา และไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ตอบสนองของสัญญาณด้วย ในขณะที่คุณภาพเสียงจะดีเท่าเทียมกันในทุกระดับความดัง อีกทั้งระดับของสัญญาณรบกวนก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงที่อยู่ในระดับต่ำสุดไปตลอดทุกระดับวอลลุ่ม นั่นคือ ทำให้ได้สเปคฯ S/N ratio ที่สูงลิบตลอดทุกระดับความดัง
ยกระดับขึ้นมาเป็น “Dual AAVA” ที่เยี่ยมยอดขึ้นไปอีกขั้น
ในการพัฒนาปรีแอมป์รุ่น C-3900 วิศวกรของ Accuphase ได้ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพของวงจร AAVA ขึ้นไปอีกขั้นด้วยการนำเอาวงจร AAVA มา “เบิ้ล” ใช้งานขนานกันถึง 2 ชุดต่อข้าง โดยเรียกเทคนิคนี้ว่า “Dual Balanced AAVA” ส่งผลให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นเนื่องจากสามารถลด noise ของระบบลงได้มากถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่น C-3850 ที่ออกมาก่อนหน้า
แผงวงจรที่ใช้ใน Dual Balanced AAVA แต่ละแชนเนล
ลักษณะการประกอบแผงวงจร Dual Balanced AAVA ลงไปในตัวเครื่อง
เปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างการใช้เทคนิค Dual Balanced AAVA กับ AAVA ซึ่ง Dual Balanced AAVA ให้ผลลัพธ์ในการลด noise ได้มากขึ้นถึง 30%
ฟีเจอร์สำคัญอื่นๆ
นอกจากเทคนิค Dual Balanced AAVA แล้ว ปรีแอมป์ตัวใหม่ล่าสุด C-3900 ของ Accuphase ยังมีคุณสมบัติพิเศษๆ อีกหลายอย่างบรรจุมา ยกตัวอย่างเช่น
แยกภาคจ่ายไฟสำหรับแชนเนลซ้ายและแชนเนลขวาออกจากกันเด็ดขาด โดยใช้ทรานฟอร์เมอร์แบบวงแหวน 2 ลูก บรรจุอยู่ในตัวถังอะลูมิเนียมป้องกันคลื่นรบกวน แยกกันจ่ายไฟให้กับวงจรแชนเนลซ้ายและแชนเนลขวาอิสระจากกัน โดยมีคาปาซิเตอร์ขนาดความจุ 10000 ไมโครฟารัด ข้างละ 6 ตัวช่วยเก็บประจุ
นอกจากนั้น ปรีแอมป์ C-3900 ยังใช้วอลลุ่มเซ็นเซอร์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ด้วย ซึ่งนอกจากจะทำให้ฟิลลิ่งในการปรับใช้งานมีความลื่นไหลนุ่มนวลมากขึ้นแล้ว วอลลุ่มเซ็นเซอร์ตัวใหม่นี้ยังช่วยลดสัญญาณรบกวนลไงปได้มากขึ้นด้วย
เพราะ “noise” หรือสัญญาณรบกวนคือต้นตอสำคัญของปัญหาที่ทำให้คุณภาพเสียงด้อยลง วิศวกรของ Accuphase จึงอุดทุกช่องทางที่มีโอกาสจะทำให้เกิด noise ขึ้นมาในระบบ ยกตัวอย่างในขั้นตอนอินพุต ตรงจุดของวงจรแปลง current-to-voltage ก็มีวงจรพิเศษที่ชื่อว่า ANCC = Accuphase Noise and distortion Canceling Circuit ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจจับและขจัดสัญญาณรบกวนตรงจุดนี้ ซึ่งเป็น input stage ของแอมปลิฟายที่มีความสำคัญมาก
หลังจากจัดตั้ง “ด่าน” สกัดและขจัด noise ตรงทางเข้า (input) แล้ว ตรงทางออก (output) ก็ต้องมีด่านสกัดและขจัดสัญญาณรบกวนเช่นกัน ซึ่ง C-3900 ได้ติดตั้งวงจร AAVA output ลงไปทั้งเอ๊าต์พุตที่ใช้ขั้วต่อบาลานซ์ XLR (Balanced out) และเอ๊าต์พุตที่ใช้ขั้วต่อ RCA (Line out) จึงมั่นใจได้ว่า สัญญาณเสียงที่ส่งออกจากปรีแอมป์ C-3900 จะมีแต่เนื้อสัญญาณที่บริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากสัญญาณรบกวนโดยสิ้นเชิง
ยังไม่หมด ในยุคที่หูฟังได้รับความนิยมสูงขึ้น C-3900 ก็ได้รับการออกแบบภาคขยายสำหรับช่องหูฟังขึ้นมาเป็นพิเศษเช่นกัน ที่พิเศษคือสามารถปรับเกนขยายได้ 3 ระดับ คือ Low, Mid, High เพื่อให้เหมาะสมกับความไวของหูฟังแต่ละตัว
สุดท้ายคือ “อินพุต” ที่มีมาให้ใช้เยอะมาก.!! /
************************
ราคา : 850,000 บาท / ตัว
************************
สนใจติดต่อที่
HI-END AUDIO
โทร. 062-551-2410
facebook: @hiendaudiothailand