ทดลองฟังเปรียบเทียบ Cambridge Audio รุ่น CXN v2 เวอร์ชั่น Original vs. เวอร์ชั่น Modify

Cambridge Audio รุ่น CXN v2 (REVIEWเป็นเครื่องเล่นไฟล์เพลงผ่านเน็ทเวิร์คที่น่าสนใจมากที่สุดในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันที่มีราคาขายไม่เกิน 40,000 บาท จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตัวนี้อยู่ที่ความสามารถในการเล่นไฟล์เพลงที่มีความยืดหยุ่นต่อการใช้งานอย่างมาก เป็น Network Player หนึ่งในไม่กี่ตัวในระดับราคานี้ที่มีฟังท์ชั่น USB-DAC ในตัว สามารถรองรับสัญญาณเสียงที่ได้จากการเล่นไฟล์เพลงด้วยคอมพิวเตอร์หรือมีเดีย เพลเยอร์ผ่านเข้าทางอินพุต USB ได้ด้วย

จุดแข็งอีกข้อของ CXN v2 คือมีแอพลิเคชั่น CA Connect ที่ใช้เล่นไฟล์เพลงซึ่งออกแบบได้ยอดเยี่ยม อินเตอร์เฟซสวยงาม ใช้งานง่าย สะดวก ภาค DAC ก็อยู่ในเกณฑ์ดี รองรับการเล่นไฟล์ได้ทั้ง PCM และ DSD แต่ยังไม่ถึงระดับ MQA โดยภาพรวมที่ว่ามานั้นจึงทำให้ CXN v2 เป็นเน็ทเวิร์ค สตรีมเมอร์ที่น่าสนใจมากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยงบไม่เกิน 40,000 บาทตามที่ว่า

เพราะพื้นฐานดี

เพราะ CXN v2 มีพื้นฐานดี โดยเฉพาะอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย สะดวก จึงเป็นที่หมายปองของนักเล่นฯ ส่วนใหญ่ เป็นเหตุผลที่ทำให้เน็ทเวิร์ค สตรีมเมอร์ตัวนี้ขายดีเป็นพิเศษ มีคนใช้กันเยอะ เผอิญว่ามี CXN v2 ตัวหนึ่งมาตกอยู่ในมือของนักเล่นเครื่องเสียงคนหนึ่งที่ชื่อคุณชัช ซึ่งมีเพื่อนเป็นผู้ที่ชื่นชอบการโมดิฟายชื่อคุณอ๊อด นั่นคือที่มาของ CXN v2 เวอร์ชั่น Modify ตัวนี้

คำถามที่หลายๆ คนคาใจมาตลอดเกี่ยวกับการโมดิฟายเครื่องเสียง ก็คือ โมแล้วเสียงมันดีขึ้นจริงมั้ย.? คุ้มมั้ยที่จะโม.? และ บลา.. บลา… บลา..

จะรู้ได้อย่างไร.? ไม่มีวิธีไหนดีไปกว่าเอาตัวที่โมดิฟายไปทดลองฟังเทียบกับตัวออริจินัล ซึ่งเป็นวิธีที่นักโมดิฟายมักจะทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครลงทุนซื้อเครื่องเสียงตัวออริจินัลมาฟังเทียบแบบที่ว่านั้น มักจะใช้วิธีจำเอา หรือไม่ก็ต้องยึดถือความคิดความเชื่อของตัวเองเป็นที่ตั้ง ที่ว่า เอาของที่ดีกว่าเปลี่ยนเข้าไปแทนที่ของเดิมก็น่าจะทำให้ได้เสียงที่ดีขึ้น

หลังจากผมเสนอไอเดียที่จะให้เอาเครื่องตัวโมฯ ไปลองฟังเทียบกับเครื่องที่เป็นเวอร์ชั่นออริจินัลในซิสเต็มเดียวกันโดยมีลูกขุนคนกลางมาช่วยกันตัดสิน คุณชัช เจ้าของเครื่อง CXN v2 Mod. version กับคุณอ๊อด คนโมฯ แสดงความยินดีที่จะให้ทดลองตามไอเดียที่ผมเสนอ กิจกรรมฟังทดสอบครั้งนี้จึงเกิดขึ้นที่ห้องฟังของคุณภานุมาศ ที่ชลบุรี โดยมีคุณปอยและคุณโจ้ จากแก็งนักเล่นเครื่องเสียงชลบุรีเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการฟังเทียบครั้งนี้

ซิสเต็มมอนิเตอร์ต้องได้มาตรฐาน

ชุดเครื่องเสียงที่ใช้ในการฟังเพื่อวัดผลเปรียบเทียบกันมีความสำคัญมาก อันดับแรก ซิสเต็มที่ใช้เป็นมอนิเตอร์จะต้องมีความแม็ทชิ่งที่ลงตัวมากที่สุด โดยเฉพาะลำโพงกับห้อง, และแอมป์กับลำโพง จึงจะทำให้สามารถถ่ายทอดคุณสมบัติต่างๆ ของเสียงออกมาได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติทางด้านไดนามิก, คุณสมบัติทางด้านเวทีเสียง และคุณสมบัติทางด้านเนื้อเสียง

อันดับที่สอง ลำโพงจะต้องถูกเซ็ตอัพตำแหน่งได้อย่างลงตัวในห้องฟังนั้น รวมถึงสภาพอะคูสติกจะต้องถูกจัดการให้อยู่ในลักษณะที่ทำให้ลำโพงแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่มากที่สุดด้วย

คุณภานุมาศ เป็นนักเล่นเครื่องเสียงอยู่ที่อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี คุณภานุมาศแสดงความประสงค์อยากทดลองฟังเปรียบเทียบเพราะตัวเขาเองก็ใช้ CXN v2 อยู่ในซิสเต็มปัจจุบัน เลยอยากรู้ว่า ถ้าโมฯ แล้วจะได้เสียงออกมาอย่างไร.? ดีขึ้นมั้ย.?

ตัวผมเองต้องยอมรับว่า แรกๆ ก็มีความกังวลเพราะยังไม่เคยฟังซิสเต็มของคุณภานุมาศมาก่อน ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ในระดับที่สามารถใช้เป็นซิสเต็มมอนิเตอร์ในการฟังเพื่อตัดสินได้หรือเปล่า.? วันอาทิตย์ที่ 16 ที่เรานัดกัน ผมจึงเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการเซ็ตอัพไปเต็มพิกัด กะว่าผมกับทีมแก็งชลบุรีคือคุณโจ้กับคุณปอยที่ไปกันวันนั้นอาจจะต้องออกแรงเซ็ตอัพกันก่อน แต่ที่ไหนได้ เราไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะคุณภานุมาศเซ็ตอัพซิสเต็มไว้ได้ลงตัวมากแล้ว มันสามารถแสดงศักยภาพของเสียงออกมาได้ครบทุกคุณสมบัติ ไม่ว่าจะเป็นมิติ, เวทีเสียง รวมถึงเนื้อเสียง ส่วนที่ขาดหายไปบ้างก็คือบรรยากาศทางด้านแหลมตอนปลายๆ เท่านั้นเอง นอกนั้นผ่านหมด!

คุณภานุมาศใช้ลำโพงของ XAV รุ่น Dolphin ซึ่งเป็นลำโพงตั้งพื้นที่มีขนาดพอเหมาะกับขนาดห้องของคุณภานุมาศพอดีๆ (กว้าง 3.4 เมตร x ลึก 3.8 เมตร สูงสองเมตรกว่าๆ) ส่วนแอมปลิฟายที่ใช้รวมถึงสายสัญญาณและสายลำโพงก็เป็นของ XAV ทั้งหมด เริ่มแม็ทชิ่งจนหมดปัญหา รวมถึงเรื่องเซ็ตอัพด้วย เพราะคุณภานุมาศทำการเซ็ตอัพลำโพง Dolphin ไปตามแนวทางที่ผู้ออกแบบและผลิตคือ XAV แนะนำไว้ ซึ่งเสียงที่ได้ลองฟังถือว่าผ่านทุกคุณสมบัติ ใช้มอนิเตอร์ได้

นอกจากซิสเต็มแล้ว พื้นฐานทางระบบไฟในห้องของคุณภานุมาศก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะเขาเดินสายไฟแยกออกมาจากหม้อเมนเพื่อใช้กับห้องฟังเพลงโดยเฉพาะ และยังได้เดินสายกราวนด์แยกมาที่หม้อเมนย่อยที่ใช้ในห้องฟังเพลงอีกด้วย นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เสียงของซิสเต็มในห้องของคุณภานุมาศออกมาดีและสังเกตได้ว่านิ่งมาก ไม่มีอาการวูยวาบเลย

CXN v2 เวอร์ชั่น Original vs. Modify

ก่อนจะไปถึงบทสรุปในการฟังเทียบ เรามาดูกันก่อนว่าคุณอ๊อด ได้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง.?

A = ภาคอะนาลอก เอ๊าต์พุต
B = คาปาซิเตอร์
C = Clock
D = DC coupling
E = DC Filter ในภาคเพาเวอร์ซัพพลาย

คุณอ๊อดอนุญาตให้ผมถอดฝาเครื่องมาถ่ายด้านในเพื่อดูว่าเขาทำอะไรไปบ้าง.? ภาพบนสุดจากสามภาพข้างบนนี้คือด้านในของเวอร์ชั่น Original ภาพที่สองถัดลงมาคือเวอร์ชั่น Modify ที่ผมทำกรอบสีเขียวเอาไว้คือตำแหน่งที่คุณอ๊อดทำการเปลี่ยนอุปกรณ์ลงไป ซึ่งทั้งหมดมีอยู่ 5 พื้นที่ใหญ่ๆ คือ A = นั่นคือภาคอะนาลอก เอ๊าต์พุต, C = คือ clock ที่ใช้ควบคุมไทมิ่งที่ใช้จัดการกับสัญญาณดิจิตัล, ส่วน B และ D รวมถึง E ในภาคเพาเวอร์ซัพพลาย เป็นคาปาซิเตอร์ที่ใช้กรองไฟ DC (Decoupling)

จุดที่โมฯ ลงไปแล้วเห็นผลกับเสียงมากที่สุดมีอยู่ 2 จุด เรียงตามลำดับคือ คือ จุด C = ตัวกำหนดสัญญาณนาฬิกาที่ใช้ในการจัดการกับสัญญาณดิจิตัล ซึ่งส่งผลต่อกระบวนการจัดการกับสัญญาณดิจิตัลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในกรณีที่เปลี่ยนใช้ Clock ที่มีคุณภาพสูงกว่าเข้าไปแทน

Clock ตัวเดิมที่ใช้ในเวอร์ชั่น Original

Clock ตัวที่คุณอ๊อด เปลี่ยนเข้าไปในเวอร์ชั่น Modify

คุณอ๊อด คนโมดิฟาย CXN v2 ตัวนี้ให้ข้อมูลกับผมว่า Clock ที่ใช้ในเวอร์ชั่นออริจินัลมีคุณภาพแค่ระดับพื้นๆ เขาเลยเปลี่ยนแบบที่คุณภาพสูงกว่า ราคาแพงกว่าลงไปแทน เป็น Clock ของยี่ห้อ Crystek เบอร์ CCHD-957 เป็น HCMOS หรือ High Speed CMOS Clock ทำงานที่สปีด 49.152 เมกกะเฮิร์ต แต่เนื่องจาก Clock ของ Crystek มีขนาดใหญ่กว่าของเดิม บอดี้ของมันไม่สามารถฝังลงไปตรงตำแหน่งเดิมของ Clock ตัวเก่า จึงต้องใช้วิธีโหย่งขาเป็นตั๊กแตนตำข้าวแบบในภาพข้างบนนั้น!

ลักษณะภาคอะนาลอก เอ๊าต์พุตของเวอร์ชั่น Original

ลูกศรสีเหลือง = ชิป Wolfson WM8740
ลูกศรสีฟ้า = ชิปไอซี Opamp
ลูกศรสีเขียว = คาปาซิเตอร์

ลักษณะภาคอะนาลอก เอ๊าต์พุตของเวอร์ชั่น Modify ลองพิจารณาเปรียบเทียบตำแหน่งที่ถูกเปลี่ยนไป

หลังจากสัญญาณดิจิตัลถูกจัดการดีขึ้นแล้ว อีกจุดที่ส่งผลกับเสียงมากเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น นั่นคือ ภาคอะนาลอก เอ๊าต์พุต (A) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมคุณภาพให้กับสัญญาณอะนาลอกที่เป็นผลิตผลออกมาจากเอ๊าต์พุตของชิป DAC ยี่ห้อ Wolfson WM8740 ซึ่งใช้อยู่ในภาค DAC ของ CXN v2

สังเกตในภาพข้างบนนี้ จะเห็นว่า คุณอ๊อดได้ทำการเปลี่ยนอุปกรณ์ลงไปในเยอะมาก โดยเฉพาะ Capacitor ที่ถูกเปลี่ยนไปมากถึง 12 ตัว (กระป๋องสีเขียว) มีทั้งเล็กและใหญ่หลากหลายค่า

ในภาพข้างบนคือไอซี Opamp เบอร์ NE5532AN ยี่ห้อ Philips จำนวน 6 ตัวที่เปลี่ยนเข้าไปแทนของเดิมซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่า เนื่องจากตัวใหม่มีขนาดใหญ่กว่า Opamp ตัวเดิมของ TI ที่ใช้ในเวอร์ชั่นออริจินัล ขนาดขาก็ไม่เท่ากัน จึงต้องใช้วิธีเสริมอะแด๊ปเตอร์อย่างที่เห็นในภาพ

ในภาพข้างบนนี้ เปรียบเทียบตำแหน่งที่เปลี่ยน Capacitor ระดับ Audio Grade กระป๋องสีทองของ Nichicon ขนาด 1000 ไมโครฟารัดเข้าไปแทนที่คาปาซิเตอร์แบบ electrolytic กระป๋องดำที่ใช้อยู่เดิม ซึ่งทำหน้าที่กรองไฟ DC ที่จะส่งไปเลี้ยงภาคอะนาลอก เอ๊าต์พุต

สองภาพนี้แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่เปลี่ยนคาปาซิเตอร์เกรดออดิโอ (ภาพล่าง) ลงไปแทนของเดิมที่ใช้ในภาคเพาเวอร์ซัพพลาย ซึ่งคาปาซิเตอร์เหล่านี้จะช่วยทำให้ไฟเลี้ยงวงจรมีความนิ่งมากขึ้น

ผลการทดลองฟังเทียบ

จากซ้ายไปขวา คุณปอย ณ ศรีราชา, คุณมาศ ณ พานทอง และ คุณโจ้ ณ อ่างศิลา สามลูกขุนแก็งค์ชลบุรีที่ร่วมฟังตัดสิน

คุณโจ้ เลือกเพลง “Private Investigration” ของวง Dire Straits จากอัลบั้มชุด Love Over Gold เป็นเพลงที่ใช้ฟังเพื่อวัดผลเป็นคนแรก โดยมีคุณปอย เลือกเพลง “’39” จากอัลบั้มชุด A Night At The Opera ของวง Queen มาลองฟังเป็นคนที่สอง จากนั้นคุณมาศ เจ้าของห้องก็เลือกเพลง “Time” จากอัลบั้มชุด Dark Side of The Moon ของวง Pink Floyd ในการทดลองฟังเทียบ ตบท้ายที่ผมซึ่งเลือกใช้เพลง “Cold Cold Heart” ของ Norah Jones จากอัลบั้มชุด Come Away With Me ในการฟังวัดผล เป็นเพลงเดียวกันกับเพลงที่ผมใช้ฟังวัดผลที่บ้าน (ที่บ้านผมมี CXN v2 เวอร์ชั่น Original อยู่อีกตัว)


Dire Straits
– Love Over Gold


Queen – 
A Night at The Opera

Pink Floyd – Dark Side of the Moon

Norah Jones – Come Away With Me

เพลง Private Investigration ที่คุณโจ้ เลือกใช้บันทึกเสียงมาค่อนข้างเบา แต่เป็นแทรคที่ใช้วัดรายละเอียดในระดับ Low Level ได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งหลังจากเราปรับระดับความดังให้ออกมาเท่าๆ กันแล้ว เราก็พบว่า เวอร์ชั่นโมดิฟายสามารถถ่ายทอดรายละเอียดที่เบาบางออกมาได้ชัดเจนกว่า ในขณะที่แทรคเพลง ’39 ที่คุณปอยเลือกมาเป็นเพลงที่มีท่วงจังหวะกระชับและเร็วปานกลาง เด่นที่เสียงเบสแน่นๆ ซึ่งหลังจากทดลองฟังเทียบ A/B test แล้ว เราก็ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า แทรคนี้ฟังง่ายกว่าแทรคแรกของคุณโจ้ สามารถฟังจับความแตกต่างได้ชัดกว่า และสุดท้ายเราก็ได้ข้อสรุปจากแทรค ’39 ตรงกันว่า เวอร์ชั่นโมดิฟายสามารถควบคุมความยุ่งเหยิงของดนตรีในแทรคนี้ได้ดีกว่าเวอร์ชั่นออริจินัล รวมถึงเพลง Time ที่คุณมาศเลือกมาด้วย ซึ่งเป็นเพลงร็อคแนวโปรเกรสซีฟที่มีดนตรีซับซ้อนและหนักแน่น ซึ่งคุณมาศบอกว่า เวอร์ชั่นโมฯ แยกแยะเสียงกีต้าร์ในเพลงนี้ออกจากกันได้ชัดเจนกว่าเวอร์ชั่นออริจินัล และให้เสียงโดยรวมที่หนักแน่นกว่าด้วย

เพลงร้องที่บันทึกเสียงร้องชัดๆ อย่าง Cold Cold Heart ของ Norah Jones ที่ผมเลือกก็ฟังความแตกต่างได้ชัดเหมือนกัน ซึ่งพวกเราเห็นพ้องต้องกันว่า เวอร์ชั่นโมดิฟายแยกแยะชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นออกจากกันได้เด็ดขาดกว่า แสดงรายละเอียดของเสียงแต่ละเสียงออกมาได้ชัดเจนกว่า ทั้งเสียงเบสและเสียงร้องที่มีองค์ประกอบตั้งแต่เริ่มต้นเกิดขึ้นคงอยู่สลายไป สรุปแล้ว เราทั้งสามคนได้ข้อสรุปร่วมกันเป็นเอกฉันท์ว่า CXN v2 เวอร์ชั่นโมดิฟายโดยคุณอ๊อด ให้ คุณภาพเสียงที่ดีกว่าเวอร์ชั่นออริจินัล

หลังกลับมาจากชลบุรี ผมก็ทดลองฟังเปรียบเทียบกันอีกครั้ง โดยพยายามฟังโทนเสียงของทั้งสองเวอร์ชั่นเพื่อพิจารณาว่า หลังจากโมดิฟายไปแล้ว โทนเสียงหรือบุคลิกเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่.? ซึ่งพบว่า การโมดิฟายครั้งนี้ มีผลทำให้ บุคลิกเสียงของ CXN v2 แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย คือเวอร์ชั่นโมดิฟายมีบุคลิกที่จริงจังมากกว่านิดหน่อย ซึ่งเป็นผลมาจากโฟกัสที่แม่นยำและแยกแยะเด็ดขาดมากขึ้น ผสมกับน้ำหนักของอิมแพ็คที่มีความหนักแน่นมากขึ้น อันนี้น่าจะเป็นผลมาจากการปรับปรุงในส่วนของชิปไอซี Opamp ที่ภาคอะนาลอก เอ๊าต์พุต ส่วนน้ำหนักของเสียงที่เน้นย้ำดีขึ้นกับการแยกแยะช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีที่ดีขึ้นน่าจะเป็นผลมาจากการเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ที่ดีขึ้นเข้าไปแทนที่ของเดิม (ด้วยค่าที่เท่ากัน) ในขณะที่บุคลิกเสียงของ CXN v2 ส่วนใหญ่จะได้มาจากชิป DAC Wolfson ซึ่งยังคงอยู่

สรุปคือ แนวทางในการโมดิฟายของคุณอ๊อด เขายังคงรักษาแนวทางการออกแบบเดิมๆ ของ CXN v2 เอาไว้ ไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงการออกแบบ แต่ทำเฉพาะปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงกว่าของเดิมลงไปในจุดสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับ คุณภาพเสียงเท่านั้น นั่นจึงทำให้ บุคลิกเสียงของ CXN v2 เวอร์ชั่นโมดิฟายไม่ได้เปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่นออริจินัลมากนัก ส่วนคำถามที่ว่า “คุ้มมั้ย.?กับการโมดิฟาย ผมคิดว่าคำตอบมันขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนครับ คุณควรจะต้องทดลองฟังเทียบกับชุดเครื่องเสียงของคุณเองก่อนจึงจะสามารถตอบคำถามนี้ได้ด้วยตัวของคุณเอง*.! /

**********************
* ถ้าคุณใช้ CXN v2 อยู่ และสนใจจะลองฟังเทียบกับเวอร์ชั่นที่คุณอ๊อด โมดิฟายตัวนี้ ติดต่อผมมาผ่าน messenger หรือ โทร. 099-234-7887 ผมจะขอยืมคุณชัช เอาไปลองฟังเทียบให้

** คุณอ๊อด ไม่ได้รับจ้างโมดิฟายนะครับ เขาทำเป็นงานอดิเรกให้เพื่อนคือคุณชัชใช้ แต่ถ้าคุณสนใจอยากทำ ลองโทรฯ ไปคุยกันดูครับ เบอร์คุณอ๊อด 095-636-4564 คุณอ๊อดยินดีที่จะให้คำแนะนำ

mm

About ธานี โหมดสง่า

View all posts by ธานี โหมดสง่า