รีวิว WiiM รุ่น Amp Pro

ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับผมหลังจากลงโพสต์รีวิวสตรีมเมอร์ WiiM รุ่น Ultra (REVIEW) ลงไปก็คือ ปริมาณคำถามที่เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติหลายเปอร์เซ็นต์ แสดงถึงความร้อนแรงของ WiiMUltraตัวนี้ แต่ก็มีเรื่องน่าแปลกแทรกมาด้วย คือเกือบ 50% ของคำถามที่เข้ามากลับพุ่งเป้าไปที่รุ่น ‘Amp Proทั้งๆ ที่บางคนเพิ่งอ่านรีวิว WiiMUltraจบไปหมาดๆ แต่แทนที่จะถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัว ‘Ultraพวกเขากลับไปถามถึงรุ่น ‘Amp Proซะงั้น.!!??

ส่วนตัวผมยังไม่เคยฟังรุ่น Amp Pro มาก่อน ผมลองเข้าไปส่องตัว Amp Pro ในเว็บไซต์ของ WiiM พบว่า Amp Pro ตัวนี้เป็น all-in-one นั่นเอง ดูสเปคฯ กับฟังท์ชั่นรวมๆ แล้วก็ยอมรับว่า มันก็น่าสนใจจริงๆ อย่างที่เขาว่า คือถ้าพิจารณาจากคุณสมบัติโดยรวมแล้ว มันก็แทบจะเป็นตัวจบได้เลยกับคนที่มีงบสำหรับออลอินวันอยู่ในระดับไม่เกิน 2 หมื่นบาท แต่อีกใจก็อดหวั่นไม่ได้ว่าเสียงของมันจะไปได้มั้ยกับมาตรฐานของคนเล่นเครื่องเสียง.? เพราะราคาขายของมันนั่นแหละที่ทำให้อดสงสัยไม่ได้

เล็ก กระทัดรัด แต่งานดีเว่อร์..!!

วันนี้ความสงสัยคงจะได้รับคำตอบ เพราะผมได้รับ WiiM Amp Pro มาอยู่ในมือได้สักพักแล้ว แต่ก่อนจะไปเจาะลึกหาคำตอบกับแอมป์ตัวนี้ เรามาดูสภาพภายนอกของมันก่อน..

รูปพรรณสัณฐานภายนอกของ Amp Pro ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเหมือนตัว Ultra ที่เป็นสตรีมเมอร์ คือ มาในตัวถังทรงกล่องสี่เหลี่ยมที่มีหน้ากว้างกับด้านลึกเท่ากันเป๊ะ ทำให้ดูเผินๆ คล้ายคอมพิวเตอร์ Mac Mini เวอร์ชั่นเก่าๆ แถมสีสันของตัวถังก็ออกไปทางเทาอ่อนๆ เหมือนกันอีก เนื้องานดูเรียบร้อยดี (สัดส่วนตัวถังของ Amp Pro จะเล็กกว่ารุ่น Ultra นิดหน่อย)

แผงหน้าเรียบๆ

Amp Pro ไม่มีจอแสดงผลขนาดใหญ่เหมือนตัว Ultra บนแผงหน้าปัดของ Amp Pro มีฟังท์ชั่นใช้งานอยู่แค่ 3 จุด จุดแรกเป็นไฟ LED แบบสามสี (1) คือสีแดง, เขียว และ ขาว ติดตั้งอยู่ทางซ้ายมือของแผงหน้าปัด ซึ่งจะใช้สีต่างๆ ในการแสดงสถานะการทำงานของตัว Amp Pro อย่างเช่น ตอนเปิดเครื่องไฟดวงนี้จะสว่างขึ้นเป็นสีขาว กระพริบถี่ๆ แสดงให้รู้ว่ากำลังบู๊สต์ระบบภายในขึ้นมา, เป็นสีขาวนิ่งๆ แสดงว่าตัวเครื่องเชื่อมต่อกับเน็ทเวิร์คสำเร็จ, เป็นสีฟ้า กระพริบถี่ๆ แสดงให้รู้ว่ากำลังรอเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ภายนอก ฯลฯ

จุดที่สองเป็นไฟ LED ดวงเล็กๆ เรียงกัน 6 ดวง (2) ซึ่งจะทำหน้าที่แสดงระดับวอลลุ่มที่ปรับใช้ จุดที่สามเป็นปุ่มขนาดใหญ่ (3) ที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานหลายอย่าง ถ้าหมุนตามเข็มจะเป็นการเพิ่มวอลลุ่ม และหมุนทวนเข็มเพื่อลดวอลลุ่ม นอกจากนี้ ถ้ากดลงไปบนปุ่มนี้ ยังใช้ควบคุมการเล่น/หยุดเล่นไฟล์เพลงได้ ถ้ากดค้างไว้ 3 วินาที จะเป็นการเซ็ตอัพเพื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi และถ้ากดปุ่มนี้ค้างไว้ 10 วินาที จะเป็นการปรับค่าที่ตั้งไว้ทั้งหมดให้กลับไปเป็นค่าที่ตั้งมาจากโรงงาน

ขั้วต่อต่างๆ ที่อยู่บนแผงหลัง

1. เต้ารับสายไฟเอซีที่ใช้หัวปลั๊กแบบ 2 ขา
2. ขั้วต่ออินพุต HDMI ARC
3. ช่องเสียบ USB-A สำหรับอุปกรณ์เก็บไฟล์เพลง และยังทำหน้าที่เป็นช่องเอ๊าต์พุตด้วย
4. ช่องเสียบสายแลน 10/100Mbps
5. ช่องอินพุตสำหรับสัญญาณอะนาลอก สเตริโอ
6. ช่องดิจิตัล อินพุต Optical
7. ช่องสัญญาณอะนาลอก ซับวูฟเฟอร์ เอ๊าต์พุต
8. ขั้วต่อสายลำโพงข้างซ้ายและข้างขวา

Amp Pro พร้อมสำหรับการใช้งานในห้องรับแขกร่วมกับทีวี ซึ่งคุณสามารถเชื่อมต่อสัญญาณเสียงจากทีวีมาเข้าที่ Amp Pro ได้ 2 ช่องทาง คือทางอินพุต HDMI ARC (2) หรือจะผ่านเข้าทางอินพุตดิจิตัล Optical (6) ก็ได้ โดยที่ทั้งสองช่องรองรับสัญญาณได้ 2 ฟอร์แม็ต คือดิจิตัล PCM ที่มีความละเอียดสูงสุดไม่เกิน 24/192 กับฟอร์แม็ต Dolby Digital 5.1 Ch โดยไม่รองรับฟอร์แม็ต DTS

สำหรับคนที่ใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียง คุณสามารถเชื่อมต่อสัญญาณอะนาลอก เอ๊าต์พุตจากภาคขยายหัวเข็มเข้ามาที่ช่องอินพุตสำหรับสัญญาณอะนาลอก สเตริโอได้ (5) แต่สัญญาณอะนาลอกที่คุณป้อนเข้าไปจะถูกแปลงให้เป็นสัญญาณดิจิตัลด้วยภาค ADC (analog-to-digital converter) เพื่อเข้าไปปรับแต่งเสียงด้วยฟังท์ชั่นต่างๆ ในตัว Amp Pro ก่อนจะแปลงกลับมาเป็นสัญญาณอะนาลอกอีกครั้งด้วยภาค DAC (digital-to-analog converter)

ช่อง USB-A (3) ของ Amp Pro มีความพิเศษ คือมันถูกออกแบบมาให้สามารถทำหน้าที่เป็นได้ทั้ง อินพุตและ เอ๊าต์พุตอยู่ในช่องเดียวกัน คือถ้าคุณเอาอุปกรณ์แฟรชไดร้ หรือ external HDD แบบพกพาที่มีไฟล์เพลงเก็บอยู่ในนั้นมาเสียบที่ช่อง USB-A ของตัว Amp Pro คุณจะสามารถใช้แอพลิเคชั่น WiiM Home สั่งดึงไฟล์เพลงในฮาร์ดดิสตัวนั้นออกมาเล่นบน Amp Pro ได้ อันนี้คือทำหน้าที่เป็นอินพุต แต่ถ้าคุณใช้สาย USB A>B เสียบต่อที่ช่อง USB-A ของ Amp Pro แล้วใช้ปลายอีกด้านของสาย USB ที่เป็นขั้วต่อแบบ type-B ไปเสียบเข้าที่อินพุต USB ของ external DAC หรือช่อง USB อินพุตของอินติเกรตแอมป์ที่มีภาค DAC ในตัว ช่อง USB ของ Amp Pro ก็จะเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นช่อง USB-Out ส่งออกสัญญาณดิจิตัลไปให้กับภาค DAC ภายนอกทันที นอกจากนั้น Amp Pro ยังมีช่อง Sub Out (7) เพื่อส่งสัญญาณอะนาลอก เอ๊าต์พุตออกไปให้ลำโพงแอ๊คทีฟซับวูฟเฟอร์ที่อยู่ภายนอกได้ด้วย

Amp Pro มีรีโมทไร้สายมาให้ใช้ด้วย ซึ่งบนนั้นมีคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของตัว Amp Pro เท่าที่จำเป็น ยังมีการปรับตั้งค่าของตัวเครื่องอีกบางส่วนที่ต้องไปปรับตั้งที่เมนูเครื่องผ่านแอพลิเคชั่น WiiM Home

การเชื่อมต่อแบบที่ 1 : ใช้ภาคเพาเวอร์แอมป์ในตัว Amp Pro

มีวิธีการเชื่อมต่อใช้งาน Amp Pro อยู่ 2 แบบ แบบแรกคือใช้ภาคเพาเวอร์แอมป์ในตัว Amp Pro ขับลำโพงหลักและใช้สัญญาณช่อง Sub Out ขับลำโพงแอ๊คทีฟ ซับวูฟเฟอร์ (ถ้าต้องการเพิ่มซับวูฟเฟอร์)

ซึ่งวิธีเชื่อมต่อลักษณะแรกนี้ก็คือรูปแบบพื้นฐานที่ Amp Pro ตัวนี้ถูกออกแบบไว้ หลักการคือต้องหาลำโพงที่ตัวเลขกำลังขับ 60W ที่ 8 โอห์ม ของ Amp Pro สามารถรับไหวและขับออกมาได้ดี

การเชื่อมต่อแบบที่ 2 : ใช้ Amp Pro ทำหน้าที่เป็นสตรีมมิ่ง ทรานสปอร์ต

กรณีที่คุณใช้ลำโพงที่มีสเปคฯ สูงกว่าความสามารถของภาคเพาเวอร์แอมป์ในตัว Amp Pro ที่จะเอาอยู่ คุณก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเชื่อมต่อระบบใหม่ โดยให้ Amp Pro ทำหน้าที่เป็นสตรีมมิ่ง ทรานสปอร์ตเพื่อใช้เล่นไฟล์เพลงจากแหล่งต่างๆ จากนั้นก็ส่งสัญญาณดิจิตัลจากช่อง USB-Out ไปให้ภาค DAC และภาคปรี+เพาเวอร์ฯ จากภายนอกที่มีสมรรถนะสูงพอขับลำโพง

สำหรับการเชื่อมต่อรูปแบบที่สองนี้ คุณมีตัวเลือกอยู่ 2 ลักษณะ ลักษณะแรกก็คือ ใช้ external USB-DAC + ปรี + เพาเวอร์ฯ (หรืออินติเกรตแอมป์) กับอีกลักษณะคือ ใช้ USB-DAC ในอินติเกรตแอมป์ หรือออลอินวันที่มี DAC ในตัว

ดีไซน์ที่สำคัญ

จุดแข็งของ Amp Pro มีอยู่ 3 จุด นั่นคือ ภาคสตรีมมิ่ง, ภาค DAC และ ภาคเพาเวอร์แอมป์ ซึ่งหัวใจสำคัญของแพลทฟอร์มสตรีมมิ่งที่ใช้อยู่ใน Amp Pro ก็คือแอพลิเคชั่น ‘WiiM Homeที่มีความสามารถล้นเหลือ ภายในตัวแอพฯ มีฟังท์ชั่นการทำงานมากมายหลายอย่างอัดแน่นอยู่ในนั้น

บนแอพ WiiM Home มีแยกหน้าเมนูหลักไว้ 5 หน้า คือ Favorites, Browse, Devices, Search และ More โดยมีทางเข้าเรียงอยู่ที่ด้านล่าง (ในกรอบสีแดง) ในภาพข้างบนคือหน้าเมนู ‘Browseที่รวบรวมแหล่งเก็บไฟล์เพลงที่สามารถดึง (สตรีม) มาเล่นได้ ไม่ว่าจะดึงจากผู้ให้บริการเจ้าต่างๆ, ดึงจาก NAS และเลือกอินพุตจากหน้าเมนูนี้ด้วย ส่วนเมนูที่รวมคำสั่งที่ให้เข้าไปทำการปรับตั้งการทำงานของตัวเครื่องจะรวบรวมอยู่ที่หน้าเมนู ‘Devices

ภาพข้างบนคือหน้าเมนูขณะเล่นไฟล์เพลง ซึ่งจะมีรายละเอียดของไฟล์เพลงที่กำลังเล่น ไม่ว่าจะเป็นชื่อเพลง, ชื่อศิลปิน, ชื่ออัลบั้ม และสเปคฯ ของไฟล์เพลง โชว์ขึ้นมาให้เห็น รวมถึงคำสั่งที่ใช้ควบคุมการเล่นไฟล์เพลง (กรอบสีแดง) ด้วย

ส่วนหัวใจของภาค DAC ที่ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ Amp Pro ตัวนี้ก็คือชิป DAC ที่ใช้ซึ่งเป็นชิป 32-bit SABRE DAC ของค่าย ESS Technologies เบอร์ ES9038 Q2M ซึ่งใช้กันแพร่หลายอยู่ในภาค DAC ของอุปกรณ์เครื่องเสียงชั้นนำจำนวนมาก และหัวใจสำคัญของภาคเพาเวอร์แอมป์ที่ทำให้ตัวเลข 60W ต่อข้างที่ 8 โอห์ม ของ Amp Pro ตัวนี้เต็มไปด้วยความสนเท่ห์ทุกขณะจิตที่นั่งฟังเสียงของมันก็คือภาคขยายแบบ class-D.!!

ที่มาของขุมกำลัง 60W ต่อข้างที่โหลด 8 โอห์ม ก็คือโมดูลเพาเวอร์แอมป์ class-D ของ TI เบอร์ TPA3255 ที่มีเทคโนโลยี PFFB (Post Filter Feedback) ซึ่งเป็นฟีดแบ็คลู๊ปที่ใช้ตรวจจับความผิดเพี้ยนของสัญญาณเอ๊าต์พุตของภาคแอมปลิฟายหลังจากส่งออกไปผ่าน LC filter แล้วส่งรูปแบบความผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นนั้นย้อนกลับไปที่อินพุตก่อนถึงภาคขยาย ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ทำการชดเชยค่าความผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นลงไปในสัญญาณอินพุตก่อนที่จะถึงขั้นตอนขยายแล้วส่งออกไปทางเอ๊าต์พุต ด้วยวิธีนี้ ทำให้สัญญาณเสียงที่ถูกขยายออกไปถึงโหลด (ลำโพง) ไม่เกิดความผิดเพี้ยนขึ้น

วิศวกรของ WiiM จัดการให้ทั้งสามส่วนคือ สตรีมเมอร์ + ภาค DAC + ภาคเพาเวอร์แอมป์ ทำงานประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลทำให้ได้ทั้ง ประสิทธิภาพในการทำงานและ คุณภาพเสียงที่สูงลิบ เกินกว่าขนาดตัวเครื่องไปไกล

ทดลองแม็ทชิ่งกับลำโพง

ในการทดสอบ Amp Pro ตัวนี้ผมใช้ลำโพงทั้งหมด 5 คู่ จับคู่กับออลอินวันตัวนี้ ซึ่งผลที่ออกมาพบว่า มีลำโพงอยู่จำนวน 2 ใน 5 คู่ ที่ให้คุณภาพเสียงออกมาในเกณฑ์ที่ดีน่าพอใจ ได้เสียงออกมาในระดับที่พูดได้ว่า กำลังขับของ Amp Pro สามารถผลักดันคุณภาพเสียงออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งลำโพงทั้งสองคู่นั้นก็คือ Klipsch รุ่น RP-600M II กับ Focal รุ่น VESTIA No.1 ในขณะที่อีก 3 คู่ที่เหลือนั้น ให้คุณภาพเสียงโดยรวมออกมาในเกณฑ์ พอใช้ได้เมื่อจับคู่กับภาคขยายของ Amp Pro ตรงๆ แบบไม่มีตัวช่วย

ในตอนแรกของการทดสอบนั้น ผมทดลองเอา Amp Pro ไปเปิดฟังในห้องรับแขก โดยใช้ขยายเสียงให้กับสัญญาณเสียงของทีวีไปด้วย ทั้งดูหนังจาก Netflix, ฟังข่าวจากสถานีโทรทัศน์, ฟังเพลงจากแอพ YouTube บนทีวี และนอกจากนั้น ผมยังเชื่อมต่อสาย LAN เข้ากับ Amp Pro เพื่อใช้เปิดเพลงจากการสตรีมผ่านเน็ทเวิร์คฟังไปด้วย ซึ่งตลอดการใช้งานในห้องรับแขกผมพบว่า Amp Pro ทำหน้าที่ของมันได้อย่างซื่อสัตย์มาก ไม่มีอาการงอแงเลย ทุกฟังท์ชั่นทำงานได้อย่างราบลื่นไร้ที่ติ ผมให้มันทดลองขับลำโพง KlipschRP-600M IIกับ FocalVESTIA No.1ผลลัพธ์ออกมาดีน่าพอใจมาก ได้เสียงที่แผ่เต็ม สนามเสียงกว้างขวาง โทนัลบาลานซ์มาครบทั้งทุ้มกลางแหลม ใครชอบเสียงแหลมเปิดๆ รายละเอียดเด่นๆ แนะนำให้ลองฟัง Amp Pro + KlipschRP-600M IIเสียงแหลมของฮอร์นเปิดกระจ่าง ใสกริ๊ง แต่ไม่กัดหู ส่วนใครที่ชอบสมดุลเสียงที่ดี สะอาดสะอ้านตลอดทั้งย่าน เสียงกลางเด่นกว่าทุ้มกับแหลมนิดๆ แนะนำ Amp Pro + FocalVESTIA No.1ฟังดีกับเพลงทุกแนว

นอกจากนั้น ผมได้ยก Amp Pro เข้าไปเซ็ตอัพลองฟังในห้องฟังด้วย พบว่า จับกับ KlipschRP-600M IIและจับกับ FocalVESTIA No.1ก็ยังคงฟังดี ให้เสียงแผ่เต็มห้องได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งผลจากการทดลองฟังในห้องฟังนี่เองทำให้รู้ว่า พละกำลังของ Amp Pro อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม กำลังสำรองระดับ 120W ที่ 4 โอห์ม ของมันไม่ใช่ของเล่น มันใช้งานได้จริง เพราะเมื่อลองขับลำโพงที่มีสเปคฯ โหดขึ้นมาอีกขั้นอย่าง KEFQ Concerto Meta’ (REVIEW) กับ WharfedaleSuper Lintonและ Audio PhysicClassoc 8’ (REVIEW) ซึ่งทั้งสามคู่นี้ผมประเมินไว้ล่วงหน้าแล้วว่ากำลังของ Amp Pro ไม่น่าจะเอาอยู่ แต่ผลที่ออกมาก็ยังถือว่าดีกว่าที่คิด คือจะสรุปว่า ขับไม่ออกก็พูดได้ไม่เต็มปากซะเลยทีเดียว เพราะมันยังให้เสียงออกมาฟังได้เรื่องอยู่พอสมควร มีเฉพาะเพลงบางแนวเท่านั้นที่ถือว่าขับออกมาได้ไม่เต็มที่จริงๆ แต่ถ้าเพลงไม่โหดมากก็ต้องบอกว่าพอไปไหว

ในช่วงท้ายของการทดสอบ ผมทดลองเชื่อมต่อ Amp Pro ให้ทำหน้าที่เป็นแค่สตรีมมิ่ง ทรานสปอร์ต แล้วต่อเอ๊าต์พุตทางช่อง USB-Out ของมันไปเข้าที่ external DAC ของ Ayre Acoustic รุ่น QB-9 DSD Twenty แล้วต่อเอ๊าต์พุตของ QB-9 DSD Twenty ไปที่ปรีแอมป์ QUAD รุ่น 33 + เพาเวอร์แอมป์ QUAD รุ่น 303 ฉบับรีมาสเตอร์ 2024 ขับลำโพงทั้งสามคู่คือ KEFQ Concerto Meta’, WharfedaleSuper Lintonและ Audio PhysicClassic 8พบว่า เสียงออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีน่าพอใจ.! ทุกคุณสมบัติของเสียงถูกยกขึ้นไปอีกระดับ

ภาคสตรีมมิ่ง WiiMUltravs. WiiMAmp Pro

ผมทดลองฟังเทียบเฉพาะภาคสตรีมมิ่ง ทรานสปอร์ตของ WiiMUltraกับ WiiMAmp Proพบว่า ภาคสตรีมมิ่ง ทรานสปอร์ตของ WiiMUltraให้เสียงออกมาดีกว่าภาคสตรีมมิ่ง ทรานสปอร์ตของ WiiMAmp Proเล็กน้อย พอฟังออก ความแตกต่างน่าจะอยู่ในระดับ 15 – 20% ผลจากการฟังเทียบจึงได้ข้อสรุปว่า ถ้าคุณตั้งใจที่จะใช้ภาคสตรีมมิ่งอย่างเดียว แนะนำให้ใช้ตัว WiiMUltraดีกว่า ส่วนตัว Amp Pro นั้นควรจะใช้ร่วมกับภาคเพาเวอร์แอมป์ในตัวถึงจะคุ้ม โดยมองหาลำโพงที่มีความไวสูงหน่อยมาขับคู่กับมัน ซึ่งเท่าที่ได้ทดสอบด้วยกันครั้งนี้ก็มี KlipschRP-600M IIกับ FocalVESTIA No.1ที่ไปกับ Amp Pro ได้ดี

ลักษณะเสียง และ คุณภาพเสียง ของ Amp Pro

จากการทดลองใช้งาน Amp Pro มาได้ระยะหนึ่ง ผมพบว่า ในแง่ของคุณสมบัติในการสตรีมไฟล์เพลงของ Amp Pro ถือว่าผลงานอยู่ในระดับดีเยี่ยม.! แพลทฟอร์มสตรีมมิ่งในตัว Amp Pro กับแอพลิเคชั่น WiiM Home ทำงานร่วมกันได้อย่างลื่นไหล ไม่มีติดขัดอะไรเลย

ส่วนประสิทธิภาพทางด้านแอมปลิฟายของ Amp Pro ขึ้นอยู่กับตัวแปรคือลำโพงที่เอามาจับคู่กัน จากการทดลองปรับเปลี่ยนลำโพงจำนวน 5 คู่จับกับ Amp Pro สังเกตพบว่า ลำโพงที่มีความไวตั้งแต่ 89dB ขึ้นไปที่โหลด 8 โอห์ม จะไปกับ Amp Pro ได้ดี ซึ่งลำโพงที่ให้ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจมากที่สุดในจำนวน 5 คู่ที่นำมาทดลองฟังกับ Amp Pro ก็คือ Klipsch รุ่น RP-600M II รองลงมาก็คือ Focal รุ่น VESTIA No.1

คุณภาพเสียงและลักษณะเสียงของ Amp Pro ที่สรุปออกมาข้างล่างนี้ ได้มาจากการจับคู่ Amp Pro กับลำโพงทั้งสองคู่ข้างต้น

เสียงของ Amp Pro ที่ได้ยินผ่านลำโพง Klipsch และ Focal ข้างต้นนั้นมันแสดงให้เห็นถึง พัฒนาการที่ก้าวล้ำขึ้นมาอีกระดับสำหรับภาคขยาย class-D อย่างชัดเจน..!!

อัลบั้ม : Song (TIDAL HIGH/FLAC-16/44.1)
ศิลปิน : Tutu Puoane
สังกัด : TIDAL (https://tidal.com/browse/track/31510544?u)

ทั้งเสียงร้องและเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในเพลง ‘For The Time Beingจากอัลบั้มชุด Song ของ Tutu Puoane บันทึกมาดีมาก แต่ละเสียงมีความสมจริงสูง ทั้งเสียงร้อง, เสียงกีต้าร์ และเสียงมิวต์ทรัมเป็ต ซึ่งภาคขยายของ Amp Pro ถ่ายทอด ความดิบที่สมจริงของแต่ละเสียงในเพลงนี้ออกมาได้ไม่แพ้ภาคขยายแบบ class-A และ class-AB เลย.!

เสียงร้องของ Tutu Puoane มีลักษณะที่เหมือนเสียงที่พุ่งออกมาจากปากของคนจริๆ ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟังเสียงร้องของคนร้องจริงๆ มาก รวมถึงเสียงกีต้าร์ที่มีความกังวานที่สะท้อนตรงกับคุณสมบัติของสายโลหะที่ถูกดีด มีทั้งทรานเชี้ยนต์และหางเสียงที่ลำเลียงกันออกมาเป็นระลอก เสียงมิวต์ทรัมเป็ตก็เสียดแทงเข้ามาในความรู้สึกเหมือนกับเสียงของมิวต์ทรัมเป็ตจริงๆ เป็นรายละเอียดที่ไม่บอกจะไม่รู้เลยว่ากำลังฟังเสียงของภาคขยาย class-D !!

อัลบั้ม : Reunion with Chet Baker (TIDAL HIGH/FLAC-16/44.1)
ศิลปิน : Gerry Mulligan Quartet
สังกัด : TIDAL (https://tidal.com/browse/playlist/0f7e21cc-a9b0-4931-b620-7f24cc0f656d)

ข้อด้อยของแอมป์ที่ใช้ภาคขยาย class-D ในอดีตคือไม่สามารถแสดงรายละเอียดของเสียงที่มี texture ที่ชี้ชัดว่าเป็นเสียงที่เกิดจากเครื่องดนตรีที่ทำด้วยไม้หรือโลหะออกมาให้รับรู้ได้ชัดเหมือนแอมป์ที่ใช้ภาคขยาย class-A และ class-AB ที่มีคุณภาพดี คือเสียงของแอมป์ class-D ในอดีตมันจะฟังแล้วรู้สึก ลื่นๆ” ปลอมๆ เหมือนเสียงสังเคราะห์ที่ไม่มีความเปล่งปลั่งของประกายเสียงของสายกีต้าร์ที่ทำด้วยโลหะปนออกมา และไม่มีความระรัว (vibrate) ของเสียงเครื่องดนตรีที่ทำด้วยไม้ปนออกมา แต่เสียงของ Amp Pro ตัวนี้มันมี texture ของตัวเสียงที่เริ่มแสดงให้เห็นถึง ลักษณะเฉพาะของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดออกมามากขึ้น โดยเฉพาะเสียงเครื่องเป่าสไลด์ทรอมโบนกับทรัมเป็ต แม้ว่ารายละเอียดของแต่ละเสียงจะยังไม่ชี้ชัดออกมามากเหมือนกับแอมป์ class-D ระดับไฮเอ็นด์อย่างแบรนด์ Mola Mola หรือ NAD รุ่นใหม่ๆ ซึ่งใช้โมดูล N-Core ของ Hypex ที่ให้รายละเอียดของเสียงที่ชี้ชัดลงไปได้มากกว่านี้ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ฟังเสียงของโมดูล class-D ของค่าย TI ซึ่งมาอยู่ในแอมป์ที่มีราคาขายต่ำขนาดนี้ก็ต้องยอมรับว่า น่าทึ่ง!” ทำให้นึกอยากฟังรุ่นที่ใหญ่กว่านี้ขึ้นไปอีก เข้าใจว่าน่าจะมีอะไรๆ น่าสนใจแน่ๆ.!!

ความลื่นไหลของเสียงก็เป็นอีกประเด็นที่ Amp Pro ทำออกมาได้ดี แม้ว่าโดยรวมจะยังคงมีลักษณะที่เอื่อยช้าอยู่เล็กน้อย ซึ่งเป็นผลดีกับเพลงช้าๆ แต่กับเพลงที่มีจังหวะปานกลางก็ไม่ถึงกับทำให้เสียอรรถรสในการฟัง..

อัลบั้ม : Winter Song (TIDAL HIGH/FLAC-16/44.1)
ศิลปิน : Terje Isungset
สังกัด : TIDAL (https://tidal.com/browse/album/3343902?u)

แรงปะทะของหัวเสียงในย่านทุ้มทำออกมาได้ดีมาก.! แม้ว่าจะติดนุ่มไปนิด แต่ก็ให้น้ำหนักแรงปะทะที่เกินตัว สามารถตอบสนองกับเสียงทุ้มลึกๆ ออกมาได้ดี เป็นทุ้มที่ลงลึกและสะอาด ความกระชับอยู่ในเกณฑ์ดี ไทมิ่งของหัวเสียงติดช้าไปนิดส่งผลทำให้โทนของเสียงโดยรวมติดไปทางนุ่มนวล ความสดยังเป็นจุดอ่อนอยู่ แต่ถ้าไม่ฟังเพลงเร็วๆ ที่มีความกระแทกกระทั้นมากก็อาจจะไม่รู้สึก..

สรุป

โทนรวมๆ ของ Amp Pro ออกไปทางนุ่มนวล ไปกันได้ดีกับเพลงช้าๆ ถึงจังหวะปานกลางที่ไม่กระแทกกระทั้นมาก เนื้อเสียงแผ่ใหญ่ สะอาดและมีมวล ไม่แห้งและไม่บาง ความไวของลำโพงจะเป็นตัวแปรหลักที่จะทำให้ Amp Pro แสดงศักยภาพออกมาได้ดีแค่ไหน ซึ่งแนะนำลำโพงที่มีความไว ไม่ต่ำกว่า 89dB” ขึ้นไป กับโหลดที่ 8 โอห์ม

อย่างไรก็ดี เมื่อรวบรวมเอาประสิทธิภาพทุกด้านที่ได้จาก WiiMAmp Proตัวนี้มาชั่งน้ำหนักประเมินกับ ราคาขายของแอมป์ตัวนี้ ก็ต้องยอมรับว่า Amp Pro ให้ประสิทธิภาพที่ เกินราคาค่าตัวไปมาก.!! นับจนถึงตอนนี้สามารถพูดได้ว่า WiiMAmp Proเป็นแอมป์ประเภท all-in-one ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่ผมเคยลองฟังมาในงบประมาณ ไม่เกิน 20,000 บาท..!!!

***HIGHLY RECOMMENDED!!!***
สำหรับ
All-in-One ระดับราคา ไม่เกิน 20,000 บาท

**********************
ราคา : 16,990 บาท / ตัว
**********************
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
. Sound Republic by Home HiFi
โทร. 02-448-5489
facebook: soundrepublic

mm

About ธานี โหมดสง่า

View all posts by ธานี โหมดสง่า